ผบช.ภ. 5 นำทีมจับกุมคนจีนและคนไทยรวม 3 คนรับจ้างถอนเงินสดจากบัญชีม้า กลางธนาคารในห้างดังเชียงใหม่ ยึดเงินสดกว่า 1.1 ล้านบาท

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 นำทีมจับกุมคนจีนและคนไทยรวม 3 คนรับจ้างถอนเงินสดจากบัญชีม้า กลางธนาคารในห้างดังเชียงใหม่ ยึดเงินสดกว่า 1.1 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 7 ส.ค 68 ที่ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงหม่ พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย รอง ผบช.ภ.5 ,พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 และ พล.ต.ต.ยุทธนาแก่นจันทร์ ผบก.ภ.จว.ชียงใหม่ เป็นประธานร่วมการแถลงข่าว ผลการจับกุมคนจีนและคนไทยรวม 3 คนรับจ้างถอนเงินสดจากบัญชีม้า กลางธนาคารในห้างดังเชียงใหม่ ยึดเงินสดกว่า 1.1 ล้านบาท ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช ภาค 5 ได้เปิดเผยว่า เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ภ.5 (PCT ภ.5) ได้สืบสวนหาข่าวว่ามีชาวจีนได้ทำธุรกรรมถอนเงินสดต้องสงสัยจำนวนมาก โดยสืบทราบว่ากลุ่มคนจีนรับจ้างถอนเงินดังกล่าวมีความเคลื่อนไหว ในพื้นที่ จว.เชียงใหม่ จึงได้รวบรวมข้อมูลและลงพื้นที่ในการตรวจสอบยังธนาคารแห่งหนึ่ง ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต แลต่อมาเมื่อวันที่ 5 ส.ค.2568 เวลาประมาณ 12.00 น. ได้พบกับ ชาวจีนคือ
1.นายฉิน หลง หรือ MR.QIN LONG อายุ 29 ปี สัญชาติจีน
2.นายจาง ลู่ผิง หรือ อMR.ZHANG LUPING อายุ 30 ปี สัญชาติจีน
3.น.ส.น.ส.สุดารัตน์ อายุ 40 ปี
ทั้ง 3 ราย เดินทางไปทำธุรกรรมโดยการถอนเงินจากธนาคาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ภ.5 จึงได้เข้าสอบถามเกี่ยวกับรายละเอียดการทำธุรกรรมการฝากและเชิญบุคคลทั้งหมด มาสอบสวนปากคำยัง ศปอส.ภ.5 โดยทำการตรวจค้น พบเงินสดซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเป้ ของ นายฉิน หลง หรือ MR.QIN LONG จำนวน 530,000 บาท โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง ,พบเงินสดซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเป้ ของ นายจาง ลู่ผิง หรือ MR.ZHANG LUPING จำนวน 610,000 บาท โทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง รวมเป็นเงิน 1,140,000 บาท ,พบบัญชีธนาคารจำนวน 3 เล่ม และบัตรกดเงินสดจำนวน 2 ใบ โทรศัพท์มือถือจำนวน 1 เครื่อง จากกระเป๋า น.ส.สุดารัตน์ฯ
เมื่อสอบถาม Mr.QIN LONG และ MR.ZHANG LUPING ให้การรับสารภาพตรงกัน ผ่านล่ามแปลภาษาว่า ได้รับสั่งการจากบอสชาวจีน ให้เดินทางมาจากประเทศจีน เข้ามายังประเทศไทย ผ่านวีซ่าท่องเที่ยว ทำหน้าที่รับเงินสดจากบัญชีม้าชาวไทย ที่ทำการกดเงินสดผ่านเคาเตอร์แล้ว จากนั้นนำเงินสดที่ได้รับไปฝากเข้าบัญชีธนาคารต่างๆ ตามที่ได้รับสั่งการ ทำมาแล้วมากกว่า 10 ครั้ง/บัญชีม้า ได้รับค่าตอบแทนจากการทำงานวันละ 300 หยวน หรือเดือนละประมาณ 35,000 บาท

จากการสอบถาม น.ส.สุดารัตน์ฯ ให้การว่าได้ใช้บัญชีของตนเบิกถอนเงินสดมาจากธนาคารโดยคำสั่งการของชายชาวจีนทั้ง 2 คน โดยไม่รู้ว่าเงินดังกล่าวได้มากจากที่ใด ได้ค่าจ้างการเปิดบัญชีและถอนเงิน จำนวน 5,000 บาทต่อครั้ง และทำมานานแล้ว
หลังจากการสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ ทำรายงานสืบสวนพร้อมสิ่งของตรวจยึดให้พนักงานสอบสวน สภ.ภูพิงค์ฯ จากนั้นพนักงานสอบสวน สภ. ภูพิงค์ฯ ได้ไปขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายดังกล่าว ดำเนนคดีโดยแจ้งข้อกล่าวหา ” ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่นฯและ พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามฯ ” นอกจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผลผู้ร่วมขบวนการคือ นายสุธาทร ทำหน้าที่ชักชวน น.ส.สุดารัตน์ฯ ให้รับจ้างกดเงินจากคนจีน โดยทางพนักงานสวนได้ออกหมายจับ ผู้ต้องหารวม จำนวน 4 คดีจับกุมได้จำนวน 3 คน
นอกจากการตรวจสอบข้อมูล พบว่ามีผู้เสียหายจากการถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงให้ทำภารกิจ เพื่อรับผลตอบแทน โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร เลขที่บัญชี ชื่อบัญชี น.ส.สุดารัตน์ฯ จำนวนเงิน 538,669.60 บาท เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2568 ซึ่งเป็นยอดเงินที่ถูกถอนออกจากธนาคารและได้ทำการตรวจยึดไว้ ผู้เสียหายได้แจ้งความไว้ที่ สน.บางรัก และโอนคดีมาที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ แล้ว ตรวจสอบพบผู้เสียหายที่โอนเงินไปยังบัญชีเกี่ยวเนื่องกับคดีดังกล่าวที่ สภ.คอหงส์ จว.สงขลา (มูลค่าความเสียหาย 108,709 บาท),สภ.หาดใหญ่ จว.สงขลา (มูลค่าความเสียหาย 74,515 บาท)

พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 กล่าวว่า แก็งชาวจีนตอนนี้เปลี่ยนระบบใหม่ จะจ้างคนจีนเข้ามาอาศัยในประเทศไทยและไปจ้างคนไทยไปเปิดบัญชีม้า บัญชีละ 5,000-10,000 บาท เพื่อหลอกทั้งคนไทยและชาวจีนโอนเข้าบัญชีม้าดังกล่าว จากนั้นก็จะไปควบคุมเจ้าของบัญชี มากดเงินสด แล้วนำเงินสดมาเข้าระบบของแก็งคอลเซ็นเตอร์ เอง เพื่อตัดระบบการติดตาม อย่างไรก็ตามผู้เสียหายรายอื่นอยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลต่อไป และจะได้ดำเนินการคืนทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ให้กับผู้เสียหาย.
นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่