อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ผนึกกำลังเครือข่ายรัฐ–เอกชน–ชุมชน เดินหน้าขับเคลื่อน “ศรีน่านโมเดล” ต้นแบบฟื้นป่า ลด PM2.5

อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ผนึกกำลังเครือข่ายรัฐ–เอกชน–ชุมชน เดินหน้าขับเคลื่อน “ศรีน่านโมเดล” ต้นแบบฟื้นป่า ลด PM2.5 และสร้างอาชีพสีเขียวอย่างยั่งยืน
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 อุทยานแห่งชาติศรีน่าน นำโดย นายบัณฑิต ฉิมชาติ หัวหน้าอุทยานฯ ให้การต้อนรับคณะของ ศาสตราจารย์นายแพทย์วิจารณ์ พานิช ที่ปรึกษาสภาสถาบันอาศรมศิลป์, คุณหญิงสุชาดา กีระนันทน์ ที่ปรึกษาโครงการมูลนิธิรักษ์ป่าน่าน และ อาจารย์สีลาภรณ์ บัวสาย กรรมการสภาสถาบันอาศรมศิลป์ พร้อมด้วยคณะนักวิจัยจากสถาบันอาศรมศิลป์ ภาคีเครือข่ายหน่วยงานรัฐ เอกชน สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคมจังหวัดน่าน ในกิจกรรมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงปฏิบัติการหัวข้อ
“การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและอาชีพสีเขียวเพื่อฟื้นฟูป่าต้นน้ำอย่างยั่งยืน”

ณ พื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
กิจกรรมดังกล่าวเป็นความร่วมมือของหลายภาคส่วน อาทิ สถาบันอาศรมศิลป์, สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัดน่าน, บริษัท ไฟฟ้าหงสา จำกัด, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแม่สาคร, ห้างหุ้นส่วนจำกัดแคชชิว นัท ริช กรุ๊ป (ไทยแลนด์) และทีมนักวิจัยจากโครงการ “การพัฒนาเครือข่ายชุมชนการจัดการวัสดุเศษเหลือทางการเกษตรเพื่อลดจุดความร้อนและฝุ่น PM2.5” ที่ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
ภายในกิจกรรม หัวหน้าอุทยานฯ ได้บรรยายแนวคิดและผลลัพธ์ของ “ศรีน่านโมเดล” ซึ่งถอดบทเรียนจากความสำเร็จของ “เวียงสาโมเดล” ที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเกษตรกรกว่า 100 ครัวเรือนในการฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ควบคู่กับการลดจุดความร้อนและฝุ่นละออง PM2.5 ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น
การปลูกสมุนไพร
การทำเกษตรผสมผสาน
การเลี้ยงสัตว์พื้นเมืองปลอดสารเคมี
เพื่อส่งเสริมอาชีพสีเขียวที่ยั่งยืนและลดการพึ่งพาการเผาในพื้นที่การเกษตร
ช่วงบ่าย คณะได้ลงพื้นที่ศึกษาดูงานจริง เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับชุมชน และร่วมกันออกแบบแนวทางขยายผลสู่ “พื้นที่เป้าหมายฟื้นป่าน่าน” ทั้งในระดับตำบลและจังหวัด เพื่อยกระดับความร่วมมือเชิงระบบและต่อยอดองค์ความรู้ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติแบบบูรณาการ
กิจกรรมครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญของการสร้างเครือข่ายอนุรักษ์ในจังหวัดน่าน ที่มุ่งสู่เป้าหมายการเป็น “เมืองต้นแบบแห่งการอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน” สามารถลดผลกระทบจากไฟป่าและฝุ่น PM2.5 ได้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้นอย่างสมดุลและยั่งยืน

@@@@@@@@
พ.อ.ะยอม บบุญทร จ.น่าน