ไม่กล้ากินปลาสาละวินกระทบหนัก

ผลกระทบผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่ขายเมนูปลาสาละวินถูกผู้บริโภคยกเลิกเมนูปลาต่างโอดครวญ หลังข่าวพบสารปนเปื้อนในแม่น้ำสาละวินเกินมาตรฐาน จนกว่าจะมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำที่ชัดเจนอีก 7 วัน และกระทบรายได้ชาวบ้านที่ทำการประมง

วันนี้ 6 พฤศจิกายน 2568 กรมควบคุมมลพิษ พร้อมด้วย กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล และ ทสจ.แม่ฮ่องสอน ประมงแม่ฮ่องสอน และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงอยู่ในพื้นที่บ้านแม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งในวันนี้จะดำเนินการตรวจสอบคุณภาพน้ำด้วยชุดทดสอบสารหนู และ เก็บตัวอย่างสัตว์น้ำ “ปลาสาละวิน”ตรวจหาสารปนเปื้อน ในพื้นที่บ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน หลังเมื่อวานนี้ ได้ดำเนินการตรวจคุณภาพน้ำระหว่างบ้านแม่สามแลบ – บ้านสบเมย อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจนว่าจะมีปริมาณมากน้อยเพียงใดที่ส่งผลกระทบต่อการกินอยู่ของพี่น้องประชาชนหรือไม่ เพื่อแจ้งเตือนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ให้ได้รับทราบข้อมูลอย่างเป็นทางการโดยตรงอีกครั้ง ซึ่งจะรู้ผลภายตรวจแลปใน 7 วัน

นายพงษ์พิพัฒน์ มีเบญจมาศ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ชาวบ้านมีความวิตกกังวลว่า สารหนูที่เกินมาตรฐาน 5 เท่า ตามกระแสข่าวนั้นจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพชีวิตจากการสัมผัส การอาบ การใช้น้ำสาละวินหรือไม่ และ สัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาสาละวินเป็นปลาเศรษฐกิจของประชาชนที่สร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน บางครอบครัวที่อยู่ริมแม่น้ำมีรายได้จากการหาปลาสาละวินขาย และ อาจส่งผลกระทบถึงผู้บริโภคร้านค้า ร้านอาหาร เนื่องจากปลาสาละวินเป็นเมนูอาหารที่หลายคนชื่นชอบในความอร่อยของปลา ซึ่งในเบื้องต้น เพื่อความปลอดภัยได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่ริมน้ำสาละวิน งดการสัมผัส การใช้น้ำ และ กินปลาสาละวินไปจนกว่าจะมีการตรวจสอบคุณภาพน้ำที่ชัดเจนว่าส่งผลกระทบหรือไม่อย่างไร

ด้าน ร้านอาหารที่มีเมนูดังปลาสาละวิน และ ร้านรับซื้อขายปลาต่างโอดครวญ หลังมีข่าวพบสารปนเปื้อนในน้ำสาละวิน ทำให้เมนูเด็ดประจำร้าน “ปลาสาละวิน” ถึงจุดจบ เมื่อลูกค้าไม่สั่งกินปลา ซึ่งปกติถ้าลูกค้ามาต้องสั่งเมนูยอดฮิต ปลาสาละวินลวกจิ้ม ผัดฉ่า หรือ ต้มยำ กว่าหนึ่งอาทิตย์ที่มีกระแสข่าวออกมา ลูกค้าไม่สั่งกินปลาสาละวินเลย และลูกค้าที่จองไว้ต่างโทรยกเลิกเมนูปลาสาละวินทำให้สูญเสียรายได้มหาศาลที่จะได้จากการขายเมนูปลาสาละวิน ประกอบกับร้านอาหารต่างๆ ก็ได้สั่งปลาสาละวินมาเตรียมไว้ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม หวังจะได้ขายเมนูจานเด็ด ซึ่งเฉลี่ยในแต่ละวันจะมีเมนูปลาสาละวิน ออกวันละ 30 – 40 จาน ทำให้ทางร้านทั้งขาดทุนจากการซื้อปลามาตุนไว้ และ ขาดรายได้ หลักๆจากเมนูปลาสาละวินในแต่ละวันเฉลี่ย 7,000 – 10,000 บาท ขณะที่ราษฏรบ้านแม่สามแลบ ก็มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการกินปลา ไม่รู้ว่าปลาที่กินจะมีสารปนเปื้อนมากับปลาแล้วส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของเราหรือไม่

นอกเหนือจากการตรวจสอบการปนเปื้อนในแม่น้ำสาละวิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้เตรียมการหาแหล่งน้ำเพิ่มเติมเพื่อรองรับระบบประปาหมู่บ้านที่มีอยู่ด้วย(ใช้ประปาภูเขา) เพื่อสร้างความมั่นใจในการใช้น้ำให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ กรณีตรวจพบปัญหาการปนเปื้อนให้ดำเนินการแก้ไขโดยทันที รวมไปถึง การตรวจสอบพืช สัตว์น้ำ และสุขภาพของประชาชน เนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ สุขภาพอนามัย และคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เบื้องต้นพบว่า มีชุมชนที่อยู่ติดแม่น้ำสาละวินและมีการใช้น้ำในแม่น้ำ จำนวน 4 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนในพื้นที่ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย มีจำนวน 3 ชุมชน คือ บ้านแม่สามแลบ บ้านสบเมย (หย่อมบ้านพะละอี) และ บ้านปู่ทา และ ชุมชนในพื้นที่ บ้านท่าตาฝั่ง ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง อีก 1 ชุมชน
————————————
นายทศพล บุญพัฒน์ / แม่ฮ่องสอน / 0850309987

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *