โจรเหิมควงปืนปล้นร้านทองเจ้าของร้านยิงสวนถูกไหล่หมดทางสู้ยิงหัวตัวเองดับอนาถ

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เวลา 16.40 น. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีการยิงกันด้วยอาวุธปืนภายในร้านทองมีผู้เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งเหตุ พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ,พ.ต.อ.ณัฏฐพนธ์ พยอมใหม่ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ,พ.ต.ท.พิเชษฐ ปักเคธาติ รอง ผกก.สืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ,พ.ต.ท.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ,ร.ต.อ.เผ่า แสงกงพลี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี และตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบศพนายศักดา (สงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี ม.8 ต.เตาไห อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี นั่งพิงเก้าอี้ ที่ขมับด้านขวามีรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน ทะลุขมับด้านซ้ายจมกองเลือด ที่ไหล่ขวามีแผลถูกยิง 1 จุด มีเลือดไหลเต็มร่างกาย ใกล้กันพบปืนสั้นขนาด 9 มม.ยี่ห้อ TAURAS รุ่น G30 ตกอยู่ข้างศพ และมีปลอกกระสุนปืน ตกอยู่ 4 ปลอก โดยมีนางธิดารัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี เจ้าของร้าน ยืนรอให้การอยู่ภายในร้าน พร้อมอาวุธปืนสั้นลูกโม่ ขนาด .38 ยี่ห้อ SMITH & WESSON มีกระสุนในลูกโม่เหลือ 2 นัด เบื้องต้นนางธิดารัตน์ฯ ไม่อนุญาตให้เผยแพร่ภาพวงจรปิดขณะเกิดเหตุ และไม่ให้สัมภาษณ์ใดใดกับผู้สื่อข่าว แต่มีผู้ใช้เฟซบุ๊คถ่ายวีดีโอขณะคนร้ายก่อเหตุยิงศีรษะตัวเองเอาไว้ได้
จากการสอบสวนทราบว่านายศักดาฯ ได้ขับรถกระบะแคป มิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว ทะเบียน จันทบุรี เข้ามาจอดที่หน้าร้านทอง ก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน แล้วนำสร้อยคอทองคำเข้าไปขอจำนำกับเจ้าของร้าน เมื่อตรวจสอบดูก็พบว่าเป็นทองปลอม เจ้าของร้านจึงปฏิเสธรับจำนำ นายศักดาฯ จึงโมโห แล้วชักปืนออกมาข่มขู่เจ้าของร้าน บอกว่าขอเงิน 2 แสนบาท เจ้าของร้านจึงทำทีเดินเข้าไปหลังร้าน แล้วหยิบอาวุธปืนออกมาเพื่อป้องกันตัว ก่อนจะกดสัญญาณเตือนภัย เสียงดังสนั่น ประตูหน้าร้านล็อตอัตโนมัติ จึงเกิดการยิงปืนต่อสู้กันฝั่งละ 4 นัด กระสุนเข้าไหล่ขวาคนร้าย เมื่อเห็นว่าสู้ไม่ได้ คนร้ายจึงยิงศีรษะตัวเองเพื่อหนีความผิด โดยในภาพวงจรปิดร้านใกล้จุดเกิดเหตุบันทึกเสียงเหตุการณ์เอาไว้ได้
ร.ต.อ.ศุภชัย เหลือล้น รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติงาน หน.เขตงาน นาคา เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งจึงนำกำลังเขตงานออกมาที่เกิดเหตุทันที เมื่อมาถึงก็เห็นคนร้ายนั่งฟุบจมกองเลือดแล้ว พฤติการณ์คนร้ายตั้งใจมาขอจำนำสร้อยทอง แต่เป็นทองปลอม คนร้ายจึงชักปืนออกมาขู่ขอเงินแทน เจ้าของร้านสติดีมาก บอกว่าจะเอาเงินมาให้ แต่อย่ายิง ก่อนทำทีเดินไปหลังร้าน แต่ไปหยิบปืนมาเพื่อป้องกันตัว ตอนแรกเจ้าของร้านยิงขู่ไป 1 นัด คนร้ายจึงยิงสวนเข้ามา 3 นัด เจ้าของจึงยิงสวนไปอีก 3 นัด แต่ก็ไม่รู้ว่ากระสุนนัดไหนถูกที่ไหล่ของคนร้าย หลังจากยิงตอบโต้กันแล้ว เจ้าของร้านก็ไปหลบอยู่หลังร้าน คนร้ายก็เดินมานั่งลงข้างเก้าอี้ นั่งคิดอะไรสักพัก หยิบปืนมาจ่อขมับขวาหลายครั้ง ก่อนยิงตัวเองตายในที่สุด เจ้าของร้านเป็นผู้หญิงที่ใจเด็ดมาก
นายมานิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี เจ้าของร้านข้างที่เกิดเหตุ เล่าว่า ตนไปหาหมอมา กลับมาก็นั่งหลับอยู่ในร้าน ก่อนตกใจตื่นเพราะได้ยินเสียงเตือนภัยร้านทอง เมื่อลุกขึ้นมาดูก็เห็นคนร้ายยืนอยู่ในร้าน พี่สาวตนก็บอกว่ามีคนปล้นร้านทอง อย่าไปใกล้ให้หลบเข้ามา ตอนนั้นได้ได้ยินเสียงปืน 4 – 5 นัด สักพักคนร้ายก็เดินวนไปมา แล้วก็มานั่งลงที่พื้น แล้วพูดจาอยู่คนเดียว เหมือนคนจิตไม่ปกติ แล้วก็ได้ยินเสียงปืนอีกครั้ง มาไปดูอีกครั้งก็เห็นคนร้ายเสียชีวิตแล้ว
พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า หลังจากเกิดการยิงต่อสู้กัน คนร้ายเห็นว่าจะต่อสู้เจ้าของร้านไม่ได้ จึงยิงตัวเอง เจ้าของร้านให้ข้อมูลว่าคนร้ายมาใช้บริการที่ร้านบ่อย จำหน้าคนร้ายได้เป็นอย่างดี จึงไม่ได้เอะใจว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น แต่เจ้าของร้านมีอาวุธปืน และประตูถูกล็อคไว้ คนร้ายไม่มีทางหนี จึงยิงตัวเองอย่างที่เห็น จากการตรวจสอบประวัติคนร้าย ไม่พบว่ามีหมายจับหรือประวัติอาชญากรรม ฝากถึงร้านทองด้วยว่า ช่วงนี้ราคาทองมีราคาสูงมาก ซึ่งจะเป็นเหตุจูงใจให้คนร้ายลงมือก่อเหตุได้ เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างที่ดี เพราะมีการติดตั้งกรงเหล็ก สัญญาณเตือนภัย และประตูล็อคอัตโนมัติ ร้านทองที่อยู่ชายเมืองหรือเส้นทางเปลี่ยว ควรจะป้องกันตัวเองไว้เบื้องต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบปืนทั้ง 2 กระบอก ของเจ้าของร้านทองและคนร้ายมีทะเบียนถูกต้อง ส่วนรถกระบะของคนร้าย มีชื่อพี่สาวของคนร้ายเป็นผู้ครอบครอง ส่วนเจ้าของร้านทองรายนี้ ทราบว่าเป็นภรรยาของตำรวจระดับสูง ยศ ในจังหวัดแห่งหนึ่ง และทราบจากทางญาติว่า เจ้าของร้านมักจะฝึกซ้อมยิงปืนอยู่เป็นประจำ เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งจะได้ทำการสอบปากคำเจ้าของร้าน และพยานอื่นๆ รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
///////////////////////
รัฐธนินท์ ถิรศิรเศรษฐ์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *