พสกนิกรชาวกระบี่ 750 คนจากพื้นที่ 7 อำเภอเดินทางเข้าเฝ้ากราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์รอบแรกเพื่อความอาลัยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เวลา 05.00 นาฬิกา นายนเรศวร์ จันทร์เทพ ขนส่งจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยพลตำรวจตรี สุขเกษม นครวิลัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ จำนวน 7 ชุด ทำการตรวจเข้มข้นสภาพรถบัส อุปกรณ์อำนวยความสะดวก ตรวจวัดระดับแอลกอฮอลล์ กับพนักงานขับรถ ทะเบียนรถ ใบอนุญาตขับขี่ ระบบจีพีเอสของรถยนต์บัสแต่ละคัน

เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทางตลอดเส้นทางทั้งขาไปและขากลับ ซึ่งจังหวัดกระบี่เหมาเพื่อนำข้าราชการพลเรือน ที่สังกัดส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พนักงาน ลูกจ้าง และประชาชนทั่วไป จำนวน 750 คน ร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียวออกเดินทางจากจังหวัดกระบี่มุ่งหน้าสู่กรุงเทพมหานคร จำนวน 18 คัน เพื่อไปเข้าเฝ้ากราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท กรุงเทพมหานคร โดยมีเจ้าหน้าที่พยาบาล เจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ประจำรถบัสทุกคน เพื่อคอยดูแลหากมีผู้เจ็บป่วยเกิดขึ้น หรือเหจตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทั้งมีรถตำรวจทางหลวงนำขบวนตลอดเส้นทางการเดินทาง
โดยจังหวัดกระบี่อยู่ในกลุ่มจังหวัดแรกและเป็นรอบแรก ซึ่งมีแผนกำหนดการเดินทางเข้าเฝ้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จำนวน 4 รอบๆละ 750 คน รวม 3,000 คน รอบแรกวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 รอบที่ 2 วันที่ 6 ธันวาคม 2568 รอบที่ 3 วันที่ 25 ธันวาคม 2568 และรอบที่ 4 วันที่ 13 มกราคม 2569 เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้
ซึ่งในวันนี้ที่หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองกระบี่ ถนนมหาราช เขตเทศบาลเมืองกระบี่ ตำบลปากน้ำ ที่หน้าสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ถนนท่าเรือ หมู่ที่ 7 บ้านคลองหิน ตำบลไสไทย อำเภอเมืองกระบี่ หน้าที่ว่ากรรอำเภอคลองท่อม หมู่ที่ 2 บ้านคลองท่อมใต้ ตำบลคลองท่อมใต้ หน้าที่ว่าการอำเภอเขาพนม หมู่ที่ 5 บ้านห้วยเสียด ตำบลเขาพนม หน้าที่ว่าการอำเภอปลายพระยา หมู่ที่ 12 บ้านศรีพระยา ตำบลปลายพระยา หน้าที่ว่าการอำเภอเกาะลันตา หมู่ที่ 1 บ้านหลังสอด ตำบลเกาะลันตาน้อย หน้าที่ว่าการอำเภออ่าวลึก หมู่ที่ 2 บ้านอ่าวลึกใต้ ตำบลอ่าวลึกใต้ และหน้าที่ว่าการอำเภอเหนือคลอง หมู่ที่ 2 บ้านเหนือคลอง ตำบลเหนือคลอง เหล่าบรรดาข้าราชการ ข้าราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พนักงาน ลูกกจ้าง และประชาชนทุกหมู่เหล่า ต่างสวมใส่ชุดดำทยอนกันขึ้นรถบัสอย่างเป็นระเบียบและพร้อมเพรียง
ด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจเคียงคู่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนากาธิเบศมหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตร ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่ออำนวยประโยชน์สุขแก่ปวงประชาและสร้างความมั่นคงแก่ประเทศ ด้านความมั่นคงของชาติทรงเยี่ยมทหาร ตำรวจ ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่อันตรายเพียงใด ช่วยทะนุบำรุงและปกป้องรักษาประเทศชาติ ด้านสาธารณสุข ช่วยเหลือพสกนิกรที่ได้รับความเดือดร้อน จัดหน่วยแพทย์พระราชทานรักษาพยาบาลราษฎรในถิ่นทุรกันดาร ช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมชาติ ทรงจัดตั้งมูลนิธิสายใจไทยให้ความช่วยเหลือพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ด้านการศึกษา ทรงวางรากฐานการศึกษาด้วยวิสัยทัศน์อันก้าวไกล ตั้งแต่พระองค์ทรงเยาว์วัย มีพระราชดำรัสเกี่ยวกับการศึกษาอยู่เนื่องๆ ทรงพระราชทานทุนการศึกษาและส่งเสริมพัฒนาความรู้ในด้านต่างๆ
ด้านศิลปะชีพ พระองค์ทรงสนใจฝีมือพื้นบ้านอันจะนำมาประกอบเป็นงานฝีมือ ทรงพระราชดำริเป็นโครงการอาชีพหลักด้านการเกษตร งานหัตถกรรมต่างๆไว้ควบคู่กันไปด้วย จัดให้มีการฝึกอบรมอาชีพต่างๆทั่วทุกภาคของประเทศไทย ด้านส่งเสริมอนุรักษ์ธรรมชาติ ทรงจัดตั้งโครงการป่ารักน้ำ โครงการสวนสัตว์ป่าเขาเขียว โครงการอนุรักษ์และขยายพันธุ์เต่าทะเลและขยายพันธุ์สัตว์ป่า โครงการปลูกป่าส่งเสริมธรรมชาติ เป็นต้น ทรงค้นคิดและพัฒนาโครงการต่างๆนับเป็นอเนกประการ ซึ่งครอบคลุมการพัฒนาทั่วทุกด้านทั้งการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมอนุรักษ์ฟื้นฟูงานศิลปะพื้นบ้าน และงานหัตถศิลป์งดงามหลายหลายสาขา ล้วนก่อให้เกิดคุณประโยชน์ต่ออาณาราษฎรและประเทศชาติแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน พระปรีชาสามารถและน้ำพระราชหฤทัยอันเปลี่ยมล้นด้วยพระเมตตาอาทร ทั้งพระราชจริยวัตรอันงดงามยิ่งนี้ได้ประทับแนบแน่นอยู่ในดวงใจของพสกนิกรไทยโดยถ้วนทั่ว วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม จึงมีความสำคัญยิ่งต่อชาวไทยทุกคนที่จะได้ร่วมกันแสดงออกถึงพลังแห่งความจงรักภักดี ที่ทรงเป็นประดุจแม่แห่งแผ่นดิน และเป็นศูนย์รวมดวงใจของปวงชนชาวไทยทั้งชาติ