พิษณุโลก เร่งระบายน้ำออกจากทุ่งบางระกำ หลังรับน้ำจากสุโขทัยอีก จนจุน้ำ 204 ล้าน เพิ่มจากเมื่อวาน 5 ล้าน ลบ.ม

จากอิทธิพลของพายุคัลแมกี ส่งผลให้มีฝนหนักตกกระจายในลุ่มน้ำปิง วัง ยม และ น่าน และเกิดอุทกภัยในหลายจังหวัด ส่งผลให้บางระกำโมเดล มีมวลน้ำเพิ่มขึ้น เป็น 204 ล้าน ลบ.ม. ชลประทานเร่งผลักดันน้ำสู่ลุ่มภาคกลาง

วันนี้( 16 พ.ย.) นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า จากอิทธิพลของพายุคัลแมกี ใน วันที่ 7-9 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีฝนหนักตกกระจายในลุ่มน้ำปิง วัง ยม และ น่าน และเกิดอุทกภัยในหลายจังหวัด โดยเฉพาะลุ่มน้ำยม มีฝนตกหนักพื้นที่เมืองสุโขทัยฝั่งตะวันตก (พื่นที่ฝั่งขวาของแม่น้ำยม) อ.ศรีสัชนาลัย อ.ทุ่งเสลี่ยม อ.บ้านด่านลานหอย อ.คีรีมาศ ของสุโขทัย ส่งผลให้มีน้ำล้นทางระบายน้ำล้นของอ่างเก็บน้ำหลายแห่งในพื้นที่ อาทิ อ่างเก็บน้ำแม่มอก อ่างฯห้วยแม่ท่าแพ อ่างฯ แม่รำพัน อ่างฯแม่กลองค่าย และเกิดน้ำล้นตลิ่งพื้นที่ด้านท้าย มวลน้ำเหล่านี้จะหลากลงมาสบทบในพื้นที่ที่ยังคงมีการท่วมอยู่ในเขตสุโขทัย น้ำจะหลากท่วมเป็นผืนราบพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งใช้เวลาไหล 4-6 วัน มาสู่พื้นที่น้ำท่วมตอนล่างในเขตทุ่งลุ่มต่ำฝั่งซ้ายไหลเชื่อมแม่น้ำยม และฝั่งขวาแม่น้ำยม เขตบริเวณ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ส่งผลให้พื้นที่รับน้ำทุ่งบางระกำโมเดล มีมวลน้ำเพิ่มขึ้นมาอีกครั้ง ล่าสุดมีมวลน้ำ 204 ล้าน ลบ.ม. สูงกว่าเมื่อวานที่ผ่านมา จำนวน 5 ล้าน ลบ.ม. ทั้งนี้ปริมาณน้ำคาดว่าจะมีปริมาณที่สูงสุดประมาณ 2-3 วัน แล้วจะเริ่มลดลง เนื่องจากปัจจุบันปริมาณแม่น้ำน่านที่จังหวัดพิจิตร แนวโน้มเริ่มคลี่คลาย

โดยทางสำนักงานชลประทานที่ 3 และหน่วยงานชลประทานในพื้นที่ ได้ระบายน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำได้โดยควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่าน คลอง DR15.8 ระบายน้ำอัตรา 62 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และ DR.2.8 ระบายน้ำอัตรา 140 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที รวม 202 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และติดตั้งเครื่องสูบน้ำไฮโดรโฟร์ ที่ ปตร. บางแก้ว จำนวน 6 เครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำลดผลกระทบอุทกภัยโดยเฉพาะพื้นที่ชุมชน บางจุดในพื้นที่นาข้าว ทางชลประทานได้นำรถแบคโฮ ไปช่วยทำคันเดินเสริม

ทั้งนี้ปริมาณอัตราการไหล และระดับน้ำแม่น้ำน่านลดต่ำลง ส่งผลให้การช่วยระบายน้ำจากทุ่งลุ่มต่ำและแม่น้ำยม มีอัตราที่เพิ่มขึ้น และคาดการณ์ระบายน้ำในทุ่งบางระกำคงเหลือ 100 ล้านลูกบาศก์เมตร ได้ภายใน 30 พฤศจิกายน 2568 นี้ เกษตรสามารถทำการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ทันเวลาฤดูกาลส่งน้ำตามปฏิทินการเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2568/2569 ของกรมชลประทาน ต่อไป

ด้านนางรุ่งนภา เรณูมาร และ นายอนุชา ทองหนัก สองสามีภรรยา ชาวนาทุ่งทะเลแก้ว อ.เมือง จ.พิษณุโลก ได้เดินทางด้วยรถจักรยานยนต์จากตัวเมือง มาดูน้ำที่ประตูระบายน้ำบางแก้ว และประตูระบายน้ำท่านางงาม พร้อมกับกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ครอบครัวตนเองได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่หลากจากพื้นที่บางระกำโมเดล ที่ปีนี้มีบริเวณกว้าง กินพื้นที่นอกพื้นที่โครงการไปหลายตำบล โดยเฉพาะพื้นที่ทำนาข้าวของตนเอง ที่อยู่ทุ่งทะเลแก้ว นั้น ปริมาณน้ำยังสูงกว่า 1 เมตร ทำให้ข้าวหอมมะลิ ที่ปลูกไว้ และกำลังจะเก็บเกี่ยวในที่วันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ถูกน้ำท่วมสูง ไม่สามารถเกี่ยวข้าวได้ จึงได้ขับรถจักรยานยนต์กว่า 20 กิโลเมตรมาดูน้ำที่ประตูระบายน้ำเกือบทุกวัน เพื่อหวังว่าระดับน้ำจะลดลงและตนเองและครอบครัวจะสามารถเกี่ยวข้าวในนาได้
///////////////

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *