ประชาชนชาวกระบี่ 750 คนเตรียมเข้าเฝ้ากราบถวายบังคมพระบรมศพสมเด็จพระพันปีหลวง ในช่วงเช้าวันนี้เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้

เมื่อเช้าวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 เวลา 06.00 นาฬิกา ประชาชนจากจังหวัดกระบี่กลุ่มแรกจำนวน 750 คน ที่เดินทางอย่างเป็นทางการเป็นหมู่คณะจำนวน 18 คันรถบัส ที่จังหวัดได้รับการจัดสรรจากส่วนกลางได้เดินทางถึงสนามหลวงเข้าสู่พื้นที่จุดพักคอย และผ่านการตรวจคัดกรองเรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมเข้าเฝ้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ภายในพระบรมมหาราชวัง ในช่วงเวลา 08.00 – 10.45 นาฬิกา ซึ่งกระบวนการต่างๆดำเนินไปอย่างเรียบร้อยตามที่หน่วยงานต่างๆได้มีการซักซ้อมและเตรียมการไว้
สำหรับจังหวัดกระบี่มีแผนกำหนดการเดินทางเข้าเฝ้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ จำนวน 4 รอบๆละ 750 คน รวม 3,000 คน รอบแรกวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการในการอำนวยความสะดวก ได้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ เทศบาลเมืองกระบี่ และเทศบาลตำบลในอำเภอต่างๆ 7 อำเภอ จำนวน 13 แห่ง รวมรถบัสที่ออกเดินทาง จำนวน 18 คัน จำนวน 750 คน โดยออกเดินทางจากที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้นๆ กำหนดซึ่งออกเดินทางล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน รอบที่ 2 วันที่ 6 ธันวาคม 2568 รอบที่ 3 วันที่ 25 ธันวาคม 2568 และรอบที่ 4 วันที่ 13 มกราคม 2569

เพื่อแสดงความอาลัยด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ โดยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรชาวไทยตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ทรงอุทิศพระวรกาย พระสติปัญญา พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ทรงมีพระเมตตาเปี่ยมไปด้วยคุณธรรมจริยธรรม อำนวยประโยชน์แก่อาณาประชาราษฎร์ ได้พระราชทานช่วยเหลือพสกนิกรผู้ยากไร้ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงยั่งยืน ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เคียงคู่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศ มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ด้วยพระราชหฤทัยที่เปี่ยมไปด้วยพระเมตตา เป็นที่ประจักษ์อยู่ในใจของพสกนิกร ก่อให้เกิดความสงบร่มเย็นตลอดจนความเจริญก้าวหน้าแก่ประเทศชาติและประชาชนตลอดมา
ผองพสกนิกรชาวไทยต่างประจักษ์แจ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ที่ตลอดระยะเวลาอันยาวนานหลายทศวรรษทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่ออำนวยประโยชน์สุข แก่ปวงประชาและสร้างความมั่นคงแก่ประเทศ โครงการตามพระราชดำริหลากหลายโครงการ ล้วนประสพผลสำเร็จ ยังผลให้เกิดการต่อยอดและขยายผลการดำเนินงาน สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันทั้งโครงการส่งเสริมศิลปาชีพเพื่อธำรงรักษาไว้ ซึ่งงานหัตถศิลป์แห่งแผ่นดิน โครงการป่ารักน้ำ โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ เพื่อสร้างความตระหนักแก่ปวงประชาในการร่วมพิทักษ์รักษาสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติให้คงความอุดมสมบูรณ์คู่แผ่นดินไทย น้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมด้วยพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้นี้ ล้วนเป็นที่ประจักษ์แจ้งและก่อให้เกิดสำนึกซาบซึ้งอยู่ในใจของปวงพสกนิกรทั่วประเทศ และผองพสกนิกรชาวไทยเสมอมา โดยวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 จึงมีความสำคัญยิ่งต่อชาวไทยทุกคที่จะได้ร่วมกัน แสดงออกถึงพลังแห่งความจงรักภักดี แด่พระองค์ที่ทรงเป็นประดุจแม่แห่งแผ่นดิน และเป็นศูนย์รวมดวงใจของปวงชนชาวไทยทั้งชาติ