กาฬสินธุ์ ศาลรับฟ้อง 6 อดีตครูยักยอกเงินผี 48 ล้านบาท

อัยการสั่งฟ้องกรรมการบริหาร และผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำนวน 6 คน และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย ฐานร่วมกันยักยอกเงินค่าสงเคราะห์ศพสมาชิกครูไทยกว่า 48 ล้านบาท ทนายยื่นหลักหลักทรัพย์ ขอปล่อยตัวชั่วคราวต่อศาล เป็นจำนวนเงิน รายละ 3 หมื่นบาท

วันนี้ (18พ.ย 68) อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้ส่งตัวผู้ต้องหาในคดีที่สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด (สอค.กส.) แจ้งความดำเนินคดี กับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด ซึ่งมี ตำแหน่งประธานบริหาร, กรรมการ ชุดที่ 65 และผู้จัดการฯ รวม 6 คน และนิติบุคคล 1 องค์การ รวมผู้ต้องหา 7 ราย ร่วมกันกระทำความผิดฐานยักยอกเงินค่าสงเคราะห์ล่วงหน้า ของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด ที่เป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจครูไทย

โดยได้ทำการหักเงิน ณ ที่จ่าย จากเงินปันผลเฉลี่ยคืนของสมาชิกในปี 2565 กว่า 4,000 คนเป็นเงินจำนวนกว่า 48 ล้านบาท เศษแต่ไม่ได้นำเงินส่งให้สมาคมฌาปนกิจครูไทยตามกำหนด จนส่งผลให้สมาชิกกว่า 4,000 คน ถูกขับออกจากสมาคมครูไทย นำไปสู่การแจ้งผ่านดำเนินคดีและอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องเพื่อดำเนินคดีต่อศาลในวันนี้

นายทวี ขาวผ่อง ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์จำกัดกล่าวว่า”ตนได้รับมอบอำนาจจากมวลสมาชิกสหกรณ์ให้เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์เพื่อทำการสอบสวนดำเนินคดีและในที่สุดพบว่าประธานกรรมการกับพวกได้หักเงินปันผลเฉลี่ยคืนของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์จำกัดซึ่งเป็นสมาชิกสมาคมฌาปนกิจอุทัยเป็นเงินกว่า 48 ล้านบาทแต่ไม่ทำการโอนจ่ายตามกำหนดให้ครับสมาคมฌาปนกิจครูไทยทันทีตามหน้าที่ตามเวลาที่กำหนดจนนำไปสู่การที่สมาชิกดังกล่าวถูกขับออกทำให้เกิดความเสียหายและเสียสิทธิ์ต่างๆถึงแม้ภายหลังสหกรณ์อ้างว่าได้นำส่งแล้วโดยแบ่งการส่งเงินออกเป็น 2 งวดจนเห็นว่าความผิดตามกฎหมายได้สำเร็จลงแล้วจนนำไปสู่การสั่งฟ้องของอัยการจังหวัดในวันนี้”

ด้านในจุฬา ศรีบุตะ สมาชิกสมาคมฌาปนกิจครูไทยในฐานะผู้เสียหายข่าวเพิ่มเติมว่า”กรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์จำกัดที่ตกเป็นจำเลยของศาลจำนวน 7 คนและยังปฏิบัติหน้าที่เป็นกรรมการสหกรณ์ในปัจจุบัน ตนจะได้แจ้งเป็นหนังสือไปยังสหกรณ์จังหวัดกาฬสินธุ์ให้ใช้อำนาจหน้าที่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่กรรมการเนื่องจากขัดต่อระเบียบนายทะเบียนสหกรณ์ว่าด้วยลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่เป็นหรือทำหน้าที่เป็นกรรมการหรือผู้จัดการของสหกรณ์พ.ศ 2566 ข้อ 4 วงเล็บ 1 ต่อไป”

คดีนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2568 นายทวี ขาวผ่อง และนายจุฬา ศรีบุตตะ ผู้แทนสมาชิก สอค.กส.รับมอบอำนาจจากมวลสมาชิก สอค.กส. เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงาน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ให้ดำเนินคดีกับ ประธานกรรมการบริหาร คณะกรรมการ ชุดที่ 65 รวมทั้ง ผู้จัดการ และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ รวมผู้ต้องหา 14 ราย ฐานกระทำความผิดดังกล่าว

พนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาฬสินธุ์ ใช้เวลาทำการรวบรวมพยานหลักฐาน กว่า 1 ปี จึงได้ส่งสำนวนฟ้องให้กับอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 25 ม.ค.2566

ต่อมาได้มีผู้ต้องหาบางรายมาร้องขอความเป็นทำ อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้ส่งสำนวนส่งไปให้อธิบดีอัยการ ภาค 4 พิจารณาสำนวนฟ้อง และส่งกลับมาให้ ปปช.พิจารณาว่า คดีที่เกิดขึ้นกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์ จำกัด เป็นอำนาจหน้าที่การฟ้องร้องของ ปปช.หรือไม่

กระทั่ง ปปช.พิจารณา แล้วได้คืนสำนวนกลับมาให้อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์เป็นผู้ฟ้อง เนื่อง สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกาฬสินธุ์เป็นองค์กรนิติบุคคล ไม่ได้เป็นองค์ของรัฐ เพียงแต่มี เจ้าหน้าที่รัฐ หรืออดีตเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปร่วมกระทำความผิดเท่านั้น คดีดังกล่าวอัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ มีอำนาจหน้าที่ฟ้องร้องผู้ต้องหาต่อศาลแขวงได้โดยตรง

ระหว่างนี้ อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้ส่งสำนวนขอฟ้องผู้ต้องหาไปให้อัยการอธิบดีภาค 4 พิจารณาเพื่อขอฟ้องผู้ต้องหา เนื่องจากจังหวัดกาฬสินธุ์ ไม่มีศาลแขวง

หลัง อธิบดีอัยการ ภาค 4 พิจารณาเห็นชอบ ได้ส่งสำนวนกลับมาให้อัยการจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คน และ 1 องค์กร รวม 7 ราย ในวันนี้

ทั้งนี้ หลัง ผู้ต้องหา จำนวน 7 คน ประกอบด้วย ประธานกรรมการบริหาร 1 คน, คณะกรรมการ 4 คน ผู้จัดการ 1 คน และ 1 องค์กร ทนายได้ยื่นหลักทรัพย์ จำนวน รายละ 30,000 บาท เพื่อขอประกันตัวผู้ต้องหา

ภาพข่าว ศุภกร อรรคนันท์ /0624544455

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *