นายทหาราชองค์รักษ์พิเศษที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบกลงพื้นที่กระบี่เผยแพร่สร้างการรับรู้ด้านความมั่นคงและอธิปไตยของชาติไทยแก่นักเรียนนักศึกษาครูอาจารย์ 3 พันคนอย่างอบอุ่น

เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 เวลา 13.30 นาฬิกา นี้คือบรรยากาศที่โรงยิมอเนกประสงค์จันทร์กะพ้อ หมู่ที่ 7 บ้านคลองหิน ตำบลไสไทย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ พลโท บุญสิน พาดกลาง นายทหารราชองครักษ์พิเศษ และที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 หรือแม่ทัพกุ้ง เดินทางลงพื้นที่จังหวัดกระบี่เพื่อพบปะนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย และนักศึกษาวิชาชีพชั้นต้น ในพื้นที่ 8 อำเภอของจังหวัดกระบี่ เมื่อเดินทางถึงได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นด้วยเพลงบ้านเกิดเมืองนอน

โดยมีนายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ นายกิตติ กิตติธรกุล และนายสฤษฎ์ เกี่ยวข้อง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ เขต 1 และเขต 2 และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมให้การต้อนรับ โดยนักเรียนนักศึกษาที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายพิเศษในครั้งนี้ ได้กล่าวอย่างพร้อมเพียงด้วยข้อความว่า เราคือเยาวชนไทยของต้อนรับพลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพผู้ปกป้องแผ่นดินด้วยหัวใจ วันนี้เราขอสัญญาว่าจะรักชาติศาสน์กษัตริย์ และทำความดีเพื่อประเทศไทย และในโอกาสนี้ยังมีแฟนคลับจากอำเภอพุนพิน อำเภอชัยบุรี จังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมเดินทางมาต้อนรับพร้อมทั้งมอบข้าวหลาม และของที่ระลึกให้แก่ พลโท บุญสิน ด้วย
จากนั้นพลโท บุญสิน พาดกลาง นายทหารราชองครักษ์พิเศษ และที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 หรือแม่ทัพกุ้ง และผู้ร่วมกิจกรรมได้แสดงความจงรักภักดีน้อมรำลุกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างพร้อมเพียงเป็นเวลา 93 วินาที จากนั้นเป็นการร้องเพลงแผ่นดินของเรา โดยนักเรียนโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 ซึ่งได้รับเหรียญทองรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในการจัดการแข่งขันทักษะวิชาการ ครั้งที่ 14 ที่จังหวัดสกลนคร เพื่อเป็นการแสดงถึงความรักชาติความสามัคคี
โอกาสนี้พลโท บุญสิน พาดกลาง นายทหารราชองครักษ์พิเศษ และที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 หรือแม่ทัพกุ้ง เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษให้ความรู้กิจกรรมสร้างการรับรู้ด้านความมั่นคงและอธิปไตยของชาติไทย ในหัวข้อเรื่องเล่าทหารกล้ารักษาอธิปไตยเพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน ซึ่งมีนักเรียนจากโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ โรงเรียนอำมาตย์พานุชนุกูล โรงเรียนเมืองกระบี่ โรงเรียนเทศบาล 2 คลองจิหลาด โรงเรียนอ่าวลึกประชาสรรค์ โรงเรียนคลองหินวิทยา โรงเรียนปลายพระยาวิทยาคม โรงเรียนเหนือคลองประชาบุรุง โรงเรียนเขาพนมเบญจา โรงเรียนสินปุนคุณวิชย์ โรงเรียนเขาดินนุกูล โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย โรงเรียนคลองท่อมราษฎร์รังสรรค์ โรงเรียนคลองพนสฤษฎ์พิทยา โรงเรียนลำทับประชาอุทิศ โรงเรียนคลองยางประชาสรรค์ วิทยาลัยเทคนิคกระบี่ วิทยาลัยการอาชีพกระบี่ วิทยาสารพัดช่างอ่าวลึก วิทยาลัยสารพัดช่างคลองท่อม และสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตกระบี่ รวมถึงครูและอาจารย์ ตลอดจนประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ เข้าร่วม 3,000 คน
โดยพลโท บุญสิน พาดกลาง นายทหารราชองครักษ์พิเศษ และที่ปรึกษาผู้บัญชาการทหารบก อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 หรือแม่ทัพกุ้ง กล่าวว่า ขอบคุณทุกคนที่รักชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ การมาครั้งนี้เป็นการมาเพื่อแบ่งปันความรู้และแรงบันดาลใจแก่ผู้เข้ารับฟังทุกคน ถือเป็นการถ่ายทอดแนวคิดเรื่องเล่าทหารกล้ารักษาอธิปไตยเพื่อคนไทยทั้งแผ่นดิน เป็นการจุดประกายอุดมการณ์รักชาติด้วยรู้จักมีความเสียสละและการอุทิศชีวิตรับใช้ผืนแผ่นดินเกิดและแผ่นดินที่อาศัยมาหลายชั่วอายุคน เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้มีจิตใจสำนึกรักและหวงแหนประเทศชาติ โดยการยึดมั่นในสถาบันชาติสถาบันศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียวในการปกป้องอาณาเขตของชาติไทยไม่ให้ใครเข้ามาบุกรุกครอบครองจากเพื่อนบ้านที่ไม่หวังดี เมื่อถึงเวลาทุกคนจะต้องมีความเสียสละแม้กระทั้งชีวิตเพื่อให้ครอบครัวและประเทศชาติอยู่สืบไป
ขอถามเราว่า แผ่นดินนี้ได้มาอย่างไร ห้องเรียนที่เรานั่งอยู่ตรงนี้ติดแอร์เย็นๆนี้ ด้วยความสุขร่วมกัน ทำไมถึงเย็นและก็พวกเรามีความสุข มีมานานหรือยัง ทะเลที่พ่อแม่เราออกไปหาปลา มีมานานหรือยัง ใครหามรดกพวกนี้ไว้ให้เรา น้อง ๆ รู้ไหมว่าใคร ว่าใครต่อสู้เอาทะเลพวกนี้ เอาแผ่นดินจังหวัดกระบี่นี้ให้พวกเราได้อยู่อาศัย น้อง ๆ เคยคิดเรื่องนี้หรือเปล่า พ่อแม่เราใช่ไหมไม่ใช่ ก่อนนั้นอีกปู่ย่าเราก็ไม่ใช่ แต่มีส่วนนิดหน่อย นั่นคือบรรพบุรุษของพวกเรา หาและรักษาไว้ให้พวกเราทั้งหลายได้อยู่จนถึงปัจจุบันนี้ พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ตั้งแต่ก่อนสมัยสุโขทัยแล้ว ต่อสู้เอาแผ่นดินนี้รักษาแผ่นดินนี้ให้ได้อยู่จนถึงทุกวันนี้ มีพระมหากษัตริย์ทรงช้างศึก แล้วบรรพบุรุษเราวิ่งตาม ศพแล้วศพเล่าเสียชีวิต ในสนามรบด้วยดาบ ด้วยขวานก็มี ทุกเชื้อชาติศาสนาในแผ่นดินไทยนี้ได้ต่อสู้เพื่อรักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้พวกเรา น้อง ๆ ได้คิดถึงวันนั้นหรือเปล่า ในยุคนี้เราได้ทำหน้าที่อย่างบรรพบุรุษเราแล้ว ในห้วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้ต่อสู้เอาแผ่นดินคืนจากประเทศเขมร ลุงแม่ทัพเป็นผู้บัญชาการหลัก รู้ว่ามีเวลาจำกัด และรู้แล้วว่าเขมรล้ำอธิปไตยหลายจุด แล้วคุณพ่อคุณพี่คุณอาทหารของเราได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้วขอสดุดีวีรชนพวกเราทั้งหลายทั้ง 16 นาย ที่เสียชีวิต นั่นคือตายจริงเสียชีวิตจริง บางคนขาขาดแขนขาดอีกหลายท่าน นายทหารใหม่ ที่จบไม่กี่ปีนำลูกน้องเข้ายึดพื้นที่คืน น้อง ๆ รู้จักหมวดบุ๊คไหม หมวดบุ๊ค (ร้อยตรี เกียรติวงศ์ สถาวร) เพิ่งจบจากโรงเรียนไม่กี่ปี เมื่อฟื้นจากยาสลบมา น้องก็บอกว่าพี่กับพวกเรายึดที่หมายได้หรือยัง ยึดที่หมายได้หรือยัง นี่คือรุ่นพี่ของพวกเราเป็นตัวอย่างของคนรุ่นใหม่ที่น่าสรรเสริญ น้องเขาไม่เคยมองดูขาของตัวเองเลย ขาขาดเขาไม่สนใจ สนใจอย่างเดียวว่าได้แผ่นดินกูคืนหรือยัง ได้แผ่นดินกูคืนหรือยัง ขณะที่พ่อแม่ยืนอยู่ที่เตียง ทำไมเขาไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลย นี่ไงรักศักดิ์ศรีของคนไทยไว้กว่า 70 ล้านคน
พลโทบุญสิน กล่าวต่อว่า ลุงแม่ทัพกุ้งแบกศักดิ์ศรีพวกเราไว้สู้กับทหารเขมร เพื่อแผ่นดิน เพื่อรักษาไว้ให้ลูกหลานของพวกเรา ไม่ต้องการให้ใครมาเหยียดหยาม ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดแล้วในช่วงที่ผ่านมาแทนน้อง ๆ ทุกคน แทนพี่น้องคนไทยทุกคน ด้วยเวลาอันจำกัด เราทวงคืนและได้มาตามที่เป็นข่าวและตามที่เห็น แลกกับ 16 ชีวิตของรุ่นพี่พวกเรา และพวกเขายังทำหน้าที่อยู่ และจะทวงคืนอีกเมื่อมีโอกาส น้อง ๆ ที่นั่งอยู่ตรงนี้พวกเธอทั้งหลาย ให้ตั้งใจเรียน เพราะอนาคตของชาติ มันอยู่ที่พวกเธอ แล้วลุงแม่ทัพก็เกษียณแล้ว คุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ข้างหน้าพวกเรานี่ ท่านก็ชราภาพ แก่แล้ว คนที่จะรักษาประเทศไทยต่อไป ก็คือน้อง ๆ ที่นั่งอยู่ ณ ที่นี้ ขอให้พวกเธอทั้งหลายเป็นคนดีของประเทศชาติ มีความเคารพต่อผู้อาวุโส เคารพในพ่อแม่ เชื่อฟังครูบาอาจารย์ เป็นคนดีกตัญญูกตเวที เสียสละ เห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ไม่เอาเปรียบเพื่อน ดูแลเพื่อนที่อยู่ข้าง ๆ เราซ้ายขวา ช่วยเหลือกันไปด้วยกัน เพราะน้อง ๆ ทั้งหลายคือคนไทยเหมือนกัน เชื้อชาติศาสนาใดก็คือคนไทยเหมือนกัน
ธงชาติที่อยู่ตรงหน้าของพวกเธอ 5 แถบ 3 สีนี้ รักษาไว้ให้ดีจะต้องคงอยู่ในยุคของพวกเรา ต้องเข้มขึ้นเรื่อย ๆ ลุงแม่ทัพมาวันนี้ดีใจ อยากจะมาเล่าความในใจที่ลุงได้ทำทุกสิ่งทุกอย่าง ทำเพื่อแผ่นดินเท่านั้น หวังว่าน้อง ๆ ที่นั่งอยู่ตรงนี้ทุกคนจะสานต่อและเป็นคนดีขอให้น้อง ๆ ทั้งหลายได้มีสติในการดำเนินชีวิต มีเหตุผลในการเชื่อหลาย ๆ อย่าง เคารพ ช่วยกันรักษาสถาบันเราให้เข้มแข็ง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพราะสิ่งเหล่านี้บรรพบุรุษเราคิดดีแล้ว ถึงได้นำมาเป็นสีธงชาติไทย เหมือนผู้นำเราท่านผู้ว่าฯ ท่านนายกฯ อบจ. ท่าน ส.ส. ทั้งหลาย ที่ได้จัดให้มีวันนี้ขึ้น เพราะท่านต้องการให้ลุงแม่ทัพกุ้งได้มาเจอน้อง ๆ ซึ่งน้อง ๆ เหล่านี้ จะเป็นแรงสำคัญที่จะดูแลประเทศชาติต่อไป
พร้อมกันนี้พลโทบุญสิน ได้ตอบคำถามของนักเรียน ที่ถามว่าสิ่งที่ท้าทายที่สุดในตำแหน่งนายพลคืออะไร พลโทบุญสิน ตอบว่า สิ่งที่ท้าทายที่สุดคือการปิดตายประสาทตาเมือนธม ซึ่งการปิดตายปราสาทตาเมือนธม ซึ่งนำมาปะทะทันทีเพราะเขมรไม่ยอมรับปราสาทตาเมือนธมเป็นของไทย และสิ่งที่ท้าทายลำดับที่ 2 คือ เราจะต้องเอาแผ่นดินคืนให้มากที่สุด แล้วเราก็ได้ทำแล้ว เราได้ภูมะเขือคืน 100% ได้ช่องอานม้าส่วนใหญ่ คงเหลือปราสาทตาควายเท่านั้น นี่คือสิ่งที่พี่น้องเราที่อยู่ต่อต้องคิดต่อไป รุ่นพี่คุณอาคุณพ่อเราเสียชีวิตไป 16 นาย นี่แหละคือสละชีพเพื่อชาติมีจริง ขาขาด ตาบอด ทุพพลภาพอีก นี่คือบรรพบุรุษเราทำไว้นานแล้ว ณ วันนี้เราได้ทำเยี่ยงบรรพบุรุษเราแล้ว ในยุคของเราจะต้องทำให้ดี เราต้องไม่ยอมเสียดินแดนในยุคของพวกเรา ลุงแม่ทัพคิดอยู่เท่านั้น
สุดท้ายพลโทบุญสิน ได้กล่าวเตือนทุกคนให้ระมัดระวังอย่าหลงกลุ่มมิจฉาชีพพวกสแกมเมอร์ ที่หลอกลวงทางออนไลน์ โดยวิธีการป้องกันขอให้ยึดหลัก 3 ข้อ คือ อย่าเชื่ออะไรง่าย ๆ 2. อย่ารีบโอน 3 .อย่าตกใจ อย่ากลัว ขอให้มีสติ
จากนั้นนายกิตติ กิตติธรกุล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกระบี่ เป็นตัวแทนชาวกระบี่ ประธานสภาเยาวชจังหวัดกระบี่ และตัวแทนชุมชน ได้กล่าวขอบคุณพลโทบุญสิน พาดกลาง ที่ได้เดินทางมาบรรยายพิเศษให้ความรู้แก่นักเรียนนักศึกษาและประชาชน จากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมร่วมกันร้องเพลงแผ่นดินของเรา เพื่อแสดงถึงความรักชาติ ความสามัคคี ทั้งนี้ก่อนเดินทางกลับ พลโทบุญสิน พาดกลาง ได้ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับนักเรียนนักศึกษานานนับชั่วโมงด้วย











