น่าน ประกาศเจตนารมณ์ “ไม่ยอมรับไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวทุกรูปแบบ” ภายใต้แนวคิด “ยุติความรุนแรงทางดิจิทัล เพื่อสตรีและเด็กหญิง”


น่าน ประกาศเจตนารมณ์ “ไม่ยอมรับไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวทุกรูปแบบ” ภายใต้แนวคิด “ยุติความรุนแรงทางดิจิทัล เพื่อสตรีและเด็กหญิง”
วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 เวลา19.00น ณ ข่วงเมืองน่าน (ข่วงน้อย) นายบรรจง ขุนเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว ประจำปี พ.ศ.2568 สร้างสรรค์ศิลป์น่าน ต้านความรุนแรง ภายใต้แนวคิด “ยุติความรุนแรงทางดิจิทัล เพื่อสตรีและเด็กหญิง” พร้อมประกาศสานต่อเจตนารมณ์ “ไม่ยอมรับไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัวทุกรูปแบบ” พร้อมมอบรางวัลการประกวดวาดภาพระบายสี ระดับประถมศึกษาตอนปลาย และการประกวดคลิปสั้นผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นติ๊กต๊อก และเปิดเวทีเสวนาในประเด็น “ NAN เมืองสร้างสรรค์ ปลอดภัยไร้ความรุนแรงทางดิจิทัล” โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและภาคประชาชน เข้าร่วมโครงการ
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้เล็งเห็นความสำคัญของการรณรงค์ยุติความรุนแรงดังดังกล่าวจึงได้กำหนดจัดกิจกรรมรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและบุคคลในครอบครัว ประจำปี พ.ศ. 2568 ภายใต้แนวคิด “ยุติความรุนแรงทางดิจิทัล เพื่อสตรีและเด็กผู้หญิง”โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระแสสังคมในการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้สังคมตระหนักต่อประเด็นปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว รวมทั้งกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนในสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการรณรงค์สนับสนุนและร่วมจัดกิจกรรมด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและบุคคลในครอบครัว กิจกรรมในวันนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนประกอบด้วย ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด ยุติธรรมจังหวัด สาธารณสุขจังหวัด ประชาสัมพันธ์จังหวัด โรงพยาบาลน่าน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และเครือข่าย ร่วมโครงการฯในครั้งนี้
การรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรีและบุคคลในครอบครัว เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2534 ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์สังหารหมู่นักศึกษาหญิงของมหาวิทยาลัยมอนทรีออล จำนวน 14 คน ในประเทศแคนาดา โดยกลุ่มที่ทำการรณรงค์ครั้งแรกเป็นกลุ่มนักศึกษาชาย จำนวน 1 แสนคน ที่ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาความรุนแรงต่อสตรี และต้องการยุติปัญหาดังกล่าว จึงได้เรียกร้องให้ผู้ชายทั่วโลก ร่วมรับผิดชอบต่อปัญหาความรุนแรงต่อสตรี รวมทั้งแสดงตนว่าจะไม่ทำความรุนแรงต่อสตรี โดยการติดสัญลักษณ์ริบบิ้นสีขาวที่ปกเสื้อ ซึ่งหมายถึง การยอมรับว่าจะไม่ทำร้าย หรือ นิ่งเฉย ต่อการใช้ความรุนแรงต่อสตรีในทุกรูปแบบ ต่อมาในปี พ.ศ. 2542 องค์การสหประชาชาติได้รับรองให้วันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวัน “ขจัดความรุนแรงต่อสตรีสากล”และในประเทศไทยได้มีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2555 กำหนดให้เดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นเดือนรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็กและสตรี เพื่อมุ่งเน้นที่จะป้องกันและแก้ไขปัญหาความรุนแรงทั้งต่อเด็กและสตรี โดยดำเนินการการณรงค์ตลอดเดือนพฤศจิกายนให้สังคมได้ตระหนักและร่วมป้องกันขจัดความรุนแรงต่อเด็กสตรีให้หมดสิ้นไปโดยใช้สัญลักษณ์ริบบิ้นสีขาว (White Ribbon) เป็นสัญลักษณ์ที่ผู้ชายติดเพื่อแสดงถึงการร่วมต่อต้านการใช้ความรุนแรงต่อสตรี โดยการ “ไม่ยอมรับ ไม่นิ่งเฉย ไม่กระทำความรุนแรงต่อสตรี” ทุกรูปแบบแต่ปัจจุบันสัญลักษณ์นี้ใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เพื่อเป็นการร่วมกันรณรงค์ยุติความรุนแรงในครอบครัว
พ.อ.พยอม บุญทร น่าน










