สุพรรณบุรี งานบุญข้าวเม่าประเพณีเก่าแก่สืบทอดกันมานับ100ปี

งานสืบสานประเพณี “บุญข้าวเม่า” ประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมานับ 100 ปี มีการแข่งขันตำข้าวเม่าลีลา แข่งขันกินข้าวเม่า การแสดงฟ้อนรำสวยงาม สร้างความรัก ความสามัคคีในชุมชน สืบสานวัฒนธรรม (บวร) “บ้าน วัด โรงเรียน” ชุมชนลาวเวียงบ้านจร้าเก่า (จะ-ร้า-เก่า) ตำบลบ้านโข้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี สาธิตการทำขวัญข้าวในอดีตของปราชญ์ชุมชน โชว์ละเล่นของเด็กๆในอดีต ลีลีข้าวสาร มอญซ่อนผ้า งูกินหาง และสาธิตโชว์ลีลาการแห่นาคโหด แห่งเดียวในสุพรรณบุรี

ที่วัดจำปา หมู่ 1 ตำบลบ้านโข้ง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี นายกองเอก เชษฐา ขาวประเสริฐ รอง ผวจ.สุพรรณบุรี เป็นประธาน เปิดงาน “บุญข้าวเม่า” โดยวัดจำปา ร่วมกับผู้นำชุมชนและชาวบ้าน จัดงาน “บุญข้าวเม่า” ประเพณีเก่าแก่กว่า 100 ปี ของชุมชนลาวเวียงบ้านจร้าเก่า (จะ-ล้า-เก่า) ซึ่งได้สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษกว่า 100 ปี จะจัดขึ้นช่วงเดือนสิบสอง เป็นช่วงที่ข้าวออกรวง ก่อนเก็บเกี่ยว ชาวบ้านจะเกี่ยวข้าวมาตำเป็นข้าวเม่า เพื่อนำไปทำบุญถวายพระ แบ่งปันกันในชุมชนและรับประทานแทนขนมหวาน โดยมีนางดวงพร คุณากรวงศ์ นายอำเภออู่ทอง นางสาวนิษฐกานต์ คุณวัชระกิจ วัฒนธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี นางพชรพรรณ มาตรศรี ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภออู่ทอง ผู้นำชุมชนและประชาชนบ้านจร้าเก่า (จะ-ร้า-เก่า) ต.บ้านโข้ง ร่วมงานกันอย่างคึกคัก
โดยมีพระครูอาทรธรรมประทีป เจ้าคณะตำบลบ้านโข้ง เขต 1 และเจ้าอาวาสวัดจำปา นายมนตรี คำตัน นายกเทศมนตรีตำบลบ้านโข้ง นางจุฑามาศ ธรรมจาดี ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรผ้าทอตีนจก และผ้าทอพื้นเมือง พร้อมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านตำบลบ้านโข้ง ทั้ง 14 หมู่บ้าน ร่วมแรงร่วมใจกันจัดขึ้น เพื่อสืบสานวัฒนธรรม (บวร) บ้าน–วัด–โรงเรียน ให้ลูกหลานได้ช่วยกันอนุรักษ์ไว้คงอยู่สืบต่อไป ส่วนพิธีเปิดงาน นายกองเอก เชษฐา ขาวประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี หมุนสีโบกข้าวโบราณเป็นสัญญาณการเปิดงาน
สำหรับบรรยากาศในงานคึกคักเป็นอย่างมาก โดยชาวบ้านที่มาร่วมงาน พากันแต่งกายด้วยผ้าพื้นบ้าน เสื้อแส่ว ผ้าซิ่นตีนจก และชุดไทยโบราณ มีการแสดงฟ้อนรำ ของชาวบ้านลาวเวียงบ้านโข้ง อำเภออู่ทอง อย่างสวยงาม และนำเครื่องใช้โบราณ เป็นของที่ชาวบ้านใช้ในชีวิตประจำวันในอดีตมาโชว์ เพื่อสะท้อนวิถีชีวิตของชุมชนลาวเวียง บ้านจร้าเก่า (จะ-ร้า-เก่า) ในอดีต
กิจกรรมมากมาย ได้แก่ สาธิตพิธีทำขวัญข้าว โดยปราชญ์ชุมชน ย้อนรอยการละเล่นของเด็กๆ ชนบทในอดีต ประกอบด้วย ลีลีข้าวสาร มอญซ่อนผ้า งูกินหาง และสาธิตการใช้สุ่มหาปลา ใช้เสียมขุดหากบ หาปู ของบรรพบุรุษสมัยโบราณ ส่วนไฮไลท์สีสันได้สาธิตการ “แห่นาคโหด” โชว์ดริฟแห่นาคโหด จากชมรมแห่นาควัดจำปา บ้านจร้าเก่า (จะ-ร้า-เก่า) ตำบลบ้านโข้ง แห่งเดียวของจังหวัดสุพรรณบุรี ในปัจจุบันหาชมได้ยาก
ขณะที่ความสนุกสุดคึกคัก คือ การแข่งขันตำข้าวเม่าลีลา ทั้ง 14 หมู่บ้าน จะใช้ครกและสากโบราณ แต่ละทีมต่างงัดลีลา ท่าทาง ไม่มีใครยอมกัน มีทั้งโชว์ลีลาทั้งเต้น ทั้งรำ และโชว์ควงสาก โยนสาก เรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก ทำให้กองเชียร์แต่ละหมู่บ้านส่งเสียงเชียร์ดังสนั่นกันอย่างสนุกสนาน นอกจากจะสร้างความสนุกสนานแล้ว ยังสร้างความรัก ความสามัคคี ให้กับชาวบ้านในชุมชนได้อีกด้วย
ปิดท้ายด้วยกิจกรรม ที่เรียกเสียงฮาเป็นอย่างมาก คือ การแข่งขันกินข้าวเม่า แต่ละหมู่บ้านจะส่งตัวแทนมาแข่ง 1 คน คนไหนกินข้าวเม่าหมดก่อนจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งตัวแทนแต่ละหมู่บ้านสู้กันเต็มที่ โดยมีกองเชียร์ของแต่ละทีมส่งเสียงเชียร์กันสนุกสนาน ส่วนผู้ชนะคือ ตัวแทนจากหมู่ 7 กินข้าวเม่าหมดเป็นคนแรก คว้าเงินรางวัล 10,000 บาท ซึ่งทีมผู้ชนะ หมู่ 7 ตำบลบ้านโข้ง ได้นำเงินรางวัลทั้งหมดถวายวัดจำปา เพื่อสมทบเป็นทุนในการจัดงานในปีต่อไป
สำหรับข้าวเม่าเป็นอาหารหวานอย่างหนึ่ง ชาวนารู้จักทำข้าวเม่ากันมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ในอดีตเมื่อข้าวเริ่มออกรวง ชาวนาจะเกี่ยวข้าว นำรวงข้าวมาใส่กระโด้งและใช้เท้าเหยียบนวดให้เมล็ดข้าวออกจากรวงก่อน แล้วนำเมล็ดข้าวข้าวมาใส่กระทะคั่วด้วยเตาถ่าน จากนั้นจะนำมาใส่ครกโบราณ ใช้สากไม้ตำ แล้วใช้กระโด้งฝัดให้สะอาด ถ้าทำสุกใหม่ ๆ ข้าวเม่าจะนิ่ม หรือจะนำไปคลุกเคล้าด้วยน้ำตาลทราย หรือน้ำตาลทรายแดง ใส่มะพร้าวและเกลือ รับประทานแทนขนมหวานหอมอร่อย และข้าวเม่าสามารถตากแห้งเก็บไว้กินได้ตลอดทั้งปี ชาวบ้านมักจะนำข้าวเม่าไปบูชาขึ้นศาลเจ้าบ้าน และนำไปทำบุญถวายพระ เพื่อความเป็นสิริมงคล เชื่อว่าส่งผลให้การทำนาจะอุดมสมบูรณ์ เป็นประเพณีดีงามที่ชุมชนลาวเวียงบ้านจร้าเก่า สืบสานกันมายาวนานนับร้อยปี
ด้านพระครูอาทรธรรมประทีป เจ้าอาวาสวัดจำปา กล่าวว่าประเพณีตำข้าวเม่า เป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวลาวเวียงมาตั้งแต่โบราณ ชาวบ้านในชุมชนได้ช่วยกันอนุรักษ์และถ่ายทอดความรู้ให้ลูกหลานได้เห็น ได้ย้อนรอยสัมผัสวิถีชีวิตของบรรพบุรุษในอดีต เพื่อจะได้ช่วยกันอนุรักษ์สืบสานต่อไป
ภัทรพล พรมพัก สุพรรณบุรี










