จิตอาสาบำเพ็ญที่สาธารณประโยชน์พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ป่าชายเลนเนื้อที่ 22 ไร่เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 วันชาติและวันพ่อแห่งชาติปี 2568

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 นาฬิกา นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยจิตอาสาพระราชทานเราทำความดีด้วยหัวใจเพื่อชาติศาสน์กษัตริย์ ในพื้นที่อำเภอเมืองกระบี่ จำนวน 200 คน ร่วมกิจกรรมจิตอาสาบำเพ็ญพัฒนาสาธารณะประโยชน์และสาธารณกุศล เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และวันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ ประจำปี 2568 เพื่อร่วมกันแสดงความรักความภักดีและรำลึกถึงพระราชกุศล และพระราชจริยวัตรของพระองค์ พระมหากษัตริย์ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยตลบอดระยะเวลา 70 ปี ที่ทรงครองราชย์ทรงงานหนักเพื่อประชาชน ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยหลักทศพิธราชธรรมเพื่อให้บ้านเมืองและประชาชนอยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและพัฒนาประเทศไปสู่ความยั่งยืนณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ ที่พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงสืบสานพระราชปณิธานอันแน่วแน่ให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขอย่างยั่งยืนสืบไปจนถึงปัจจุบัน

โดยจิตอาสาได้ร่วมกันบำเพ็ญประโยชน์พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์พื้นที่ป่าชายเลน เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองกระบี่ใหญ่และป่าคลองเหนือคลอง หมู่ที่ 11 บ้านน้ำจาน ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ซึ่งศูนย์บริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านบ้านน้ำจาน และผู้นำชุมชน ร่วมกับทำการตรวจยึดจับกุมพื้นที่กลับคืนมาเป็นของรัฐ จากที่ถูกนายดิเรกและพวก ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในท้องที่ตำบลกระบี่น้อย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เข้าบุกรุกยึดถือครองครองพื้นที่รวม 22 ไร่ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีอาญาและคดีแพงเรียกร้องค่าเสียหายของรัฐในวงเงิน 2,000,000 บาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างดำเนินคดี ด้วยการปลูกต้นโกงกางใบเล็ก และต้นโปร่ง จำนวน 500 ต้น เพื่อเป็นการเพิ่มและคืนสภาพพื้นที่ให้กับผืนป่าชายเลนให้มีความอุดมสมบูรณ์ มีความสมดุลกับระบบนิเวศก์วิทยาและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์และที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำต่อไป
สำหรับโครงการจิตอาสาพระราชทานเราทำความดีด้วยหัวใจ เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์ ด้วยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิรราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานให้พสกนิกรประชาชนทุกหมู่เหล่า ด้วยทรงมุ่งหวังให้เกิดความปรองดองสามัคคี ร่วมมือร่วมใจประกอบกิจกรรมสาธารณะเพื่อประโยชน์ของชุมชนส่วนรวมโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ให้มีความรักความผูกพันใน 4 สถาบันหลักของชาติคือ สถาบันชาติ สถาบันศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และประชาชน ซึ่งโครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการสำคัญที่สร้างความร่วมมือในการทำงาน ระหว่างหน่วยงานราชการในพระองค์ หน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชน และประชาชนทุกหมู่เหล่า ให้มีส่วนร่วมในการทำงานแก้ไขปัญหาขั้นพื้นฐานของชาติ ให้คนในชาติในชุมชนมีความสุขอย่างยั่งยืน สนองพระราชปณิธานรักษาสืบสานต่อยอด










