ปัญหาไฟป่าไม่รอรัฐต่อรัฐ

เมืองสามหมอก ไม่รอแล้ว G2G ระดมเครือข่ายสองแผ่นดิน กะเหรี่ยงคาเรนนี (กะเหรี่ยงแดง) , กะเหรี่ยง และไทใหญ่ ร่วมกันแก้ไฟป่าข้ามแดน เพื่อต่อลมหายใจให้ประชาชนชายแดนภาคเหนือและประเทศเพื่อนบ้าน

เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมดงรัก วิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอน อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ดร.กรด เหล็กสมบูรณ์ นักวิชาการสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นายประเสริฐ ประดิษฐ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน จับมือทูตสภาวัฒนธรรมเครือข่ายรัฐฉาน รัฐคะยา และรัฐกะเหรี่ยง ประกอบด้วย ผู้แทนจากสหภาพกะเหรี่ยง The Karen National Union (KNU) พรรคก้าวหน้าแห่งชาติคาเรนนี Karenni National Progressive Party (KNPP) แนวร่วมปลดปล่อยประชาชนแห่งชาติกะเหรี่ยง Karenni Nationalities People”s Liberation Front (KNPLF) สภากอบกู้รัฐฉาน Restoration Council of Shan State/Shan State Army (RCSS/SSA) กองกำลังอาสาสมัคร (ปีตุจี้ค) Shan State South (SSS) และ สมาคมกะเหรี่ยงไทย (KTA) เพื่อลดไฟป่าและ PM 2.5 ข้ามแดนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และจังหวัดชายแดนของไทยภาคเหนือ

ดร.กรด เหล็กสมบูรณ์ นักวิชาการสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า การจับมือทูตสภาวัฒนธรรมผู้แทนจากรัฐคะยา กะเหรี่ยงและรัฐฉานมาพบปะพูดคุยในการแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันข้ามแดน ไม่เกี่ยวกับการเมืองในประเทศเมียนมา สิ่งที่พวกเราทำก็เพื่อป้องกันไฟป่าและPM 2.5 เราอยากจะรู้ว่าปัญหาไฟป่าในพื้นที่ชายแดนในประเทศเมียนมาโดยเฉพาะในรัฐฉาน รัฐคะยา และรัฐกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นประชาชนในพื้นที่ที่เขาสัมผัสปัญหาได้จริง ๆ การที่เราจะไปแก้ปัญหาไฟป่าจะต้องไปพูดคุยกับคนในพื้นที่ เราอยากรู้ว่าไฟป่าที่เกิดขึ้นนอกประเทศ ทำไมมันถึงเกิด ทำไมเขาต้องเผาป่า เกี่ยวกับเรื่องเกษตรกรรมหรือป่าว หรือปัญหาอื่น ๆ เช่นเรื่องสงครามหรือไม่ แต่เราไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวในตรงนั้น เราจึงได้เชิญแต่ละกลุ่มมาพบปะพูดคุยหาแนวทางแก้ปัญหา สนับสนุน ช่วยเหลือร่วมกัน ทั้งในเรื่องมนุษยธรรม สาธารณสุข ในช่วงเข้าสู่ฤดูแล้งเดี๋ยวไฟป่าเกิดขึ้นตามแนวชายแดนในประเทศบ้าง นอกประเทศบ้าง ควันไฟลอยไปลอยมา ทำให้ผลกระทบเกิดขึ้นกับประชาชนทั้งสองฝั่ง ในอนาคตปัญหาก็จะรุณแรงมากขึ้น ถ้าเราไม่แก้ปัญหาตั้งแต่ต้นก็จะจะส่งผลกระทบในระยะยาว

ดร.กรด เหล็กสมบูรณ์ นักวิชาการสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวต่อไปว่า เราคาดหวังมากกับการพบปะกันในครั้งนี้ เพราะว่าที่ผ่านมาเราใช้ระบบแบบ G2G คือรัฐบาลต่อรัฐบาล ไม่ค่อยจะมีประสิทธิภาพ เพราะว่าฝั่งนอกประเทศรัฐบาลไม่สามารถมาควบคุมได้โดยตรง แต่ถ้าเราสามารถพูดคุยกับคนในพื้นที่โดยตรง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่เราเชิญมาน่าจะมีบทบาทสำคัญ กลุ่มเครือข่ายเหล่านี้ก็พยายามสร้างระบบการบริหารที่ดีและจะสามารถควบคุมดูแลการเผาป่าในพื้นที่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาพอถึงฤดูไฟป่ามาเกิดปัญหาตลอดพอเขาเผาป่าฝั่งบ้านเขาเจอลมฤดูกาลหรือลมตะวันตกควันไฟก็ลอยเข้ามาในฝั่งเราเกิดขึ้นทุกปี เราต้องมารับฟังคนในพื้นที่จริง ๆ เพราะควันไฟจากฝั่งเพื่อนบ้านที่ลอยข้ามมาจากฝั่งตะวันตกไม่เฉพาะเข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนอย่างเดียว ข้ามผ่านทั้งจังหวัดตาก เชียงราย เชียงใหม่ ในการหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นดังกล่าวต้องการอยากจะรู้ปัญหาในฝั่งรัฐกะเหรี่ยง คะยา รัฐฉาน ปัญหาต่าง ๆ เราจะช่วยอะไรได้บ้าง เช่นอุปกรณ์ดับไฟป่า การถ่ายทอดเทคโนโลยี การจัดการเชื้อเพลิงทำอย่างไร สิ่งเหล่านี้เขาอาจจะต้องได้รับความรู้ในการควบคุมดูแลไฟป่า และประเด็นที่ได้พบปะพูดคุยกันในวันนี้ก็จะสรุปประเด็นปัญหาให้กับภาครัฐเพื่อช่วยเหลือแก้ปัญหาร่วมกันต่อไป

นายประเสริฐ ประดิษฐ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ความคิดเห็นแต่ละฝ่ายและละกลุ่มในการแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันเราสามารถจัดกิจกรรมร่วมกันแก้ไฟป่าได้ สามารถใช้กิจกรรมอื่น ๆ เข้ามาส่งเสริม เช่นการปลูกพืช การปลูกป่า การเกษตร การเลี้ยงสัตว์ ทดแทนการเผาป่า แต่ละรัฐความต้องการไม่เหมือนกัน เช่น รัฐคาเรนนี เขาต้องการให้เราไปช่วยเรืองเทคโนโลยี เรื่องฮอทสปอร์ท ในรัฐฉานเรื่องการปลูกพืชทดแทน แผนจัดการไฟป่าแต่ละรัฐทั้งกะเหรี่ยง รัฐคาเรนนี รัฐฉาน จะหารือกันอีกรอบ แต่ละรัฐขาดแคลนทุกอย่างทั้งความรู้ เทคโนโลยี วัสดุอุปกรณ์ ปัญหาต่าง ๆ ที่เรารับฟังมาก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุมใหญ่การแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าจังหวัดแม่ฮ่องสอนต่อไป

Ms.Ohn Mar Harn ผู้ช่วยผู้ประสานงาน(ฝ่ายการเงิน)สภากอบกู้รัฐฉาน Restoration Council of Shan State/Shan State Army (RCSS/SSA) กล่าวว่า เมื่อเข้าสู่ฤดูไฟป่าในพื้นที่ ก็จะเรียกแต่ละฝ่ายมาพูดคุยหาแนวทางป้องกัน ถ้าจะเผาไร่เผาสวนทำการเกษตรก็จะหาคนมาเฝ้าไม่ให้ไฟลุกลามไปยังพื้นที่อื่น ในพื้นที่รัฐฉานแต่ละปีจะเกิดไฟป่าไม่มาก สิ่งที่เราขาดก็จะเป็นเครื่องมือดับไฟป่า ที่ตบไฟป่า ถ้าได้เครื่องมือที่ทันสมัยก็จะสามารถควบคุมไฟป่าได้ การแก้ปัญหาไฟป่าทั้งสองประเทศจะต้องทำความเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นและหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน

Mr.Tun Sein นายอำเภอแม่แจ๊ะ จ.ลอยก่อ รัฐคาเรนนี ประเทศเมียนมา กล่าวว่า การแก้ปัญหาไฟป่าในพื้นที่รัฐคาเรนนี ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศเราร่วมกันมาโดยตลอด เมื่อถึงฤดูไฟป่าเราจะจัดเวรแบ่งการทำงาน และจะร่วมมือกับทางการไทยที่อยู่ชายแดน ทหารไทยก็จะประสานขอความร่วมมือในการดับไฟป่าตามแนวชายแดน ในส่วนของชุมชนในรัฐคาเรนนี ไม่สามารถจัดกิจกรรมดับไฟป่าได้จะต้องไปร่วมกับฝ่ายไทยที่ชายแดน
——————————————-
นายทศพล บุญพัฒน์ / แม่ฮ่องสอน / 0850309987

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *