จ.จันทบุรีแถลงข่าว เตรียมจัดงาน“มหัศจรรย์แห่งแสงสว่าง กระจ่างจันทร์” เติมเต็มความสุข–ความทรงจำช่วงเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24–25 ธันวาคม 2568 ณ ลานหน้าอาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมลจันทบุรี

วันนี้ (13 ธ.ค. 68) ที่ สนามหนองสิด บ้านดาวเรือง ม.10 ต.พลับพลา อ.เมืองจันทบุรี นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เป็นประธานเปิดการแข่งขันเสียงอูดว่าวดุ๊ยดุ่ย ครั้งที่ 20 ภายใต้โครงการสืบสานรักษามรดกภูมิปัญญาท้องถิ่น “การแข่งขันเสียงอูดว่าวดุ๊ยดุ่ย” จังหวัดจันทบุรี บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคัก มีทีมผู้เข้าแข่งขันและประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก เพื่อร่วมกันสืบสานตำนานการละเล่นพื้นบ้านที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตความผูกพันกับสายลมและฤดูกาลของชาวจันทบุรี การแข่งขันว่าวดุ๊ยดุ่ยนี้ ไม่ใช่เพียงกิจกรรมนันทนาการทั่วไป

แต่ถือเป็นความภาคภูมิใจของคนในพื้นที่ เนื่องจากได้รับการประกาศขึ้นบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ในประเภทการเล่นพื้นบ้าน กีฬาพื้นบ้าน และศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว จากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2562 การจัดงานในครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนการตอกย้ำความสำคัญและส่งต่อองค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมนี้ให้คงอยู่สืบไปสำหรับกติกาการแข่งขัน จะมีการปล่อยตัวครั้งละ 1 ทีม เมื่อทีมผู้เข้าแข่งขันนำว่าวเข้าประจำจุดและได้รับสัญญาณธงเขียว จะต้องวิ่งเพื่อส่งว่าวขึ้นสู่ท้องฟ้าให้สำเร็จภายในเวลา 30 วินาที หากว่าวไม่ขึ้นตามกำหนดจะถูกปรับแพ้ทันที ส่วนทีมที่สามารถนำว่าวขึ้นติดลมบนได้ ผู้เล่นจะต้องวิ่งประคองว่าวต่อไปในระยะทางประมาณ 200-300 เมตร โดยใช้เวลาทั้งหมดไม่เกิน 5 นาที จึงจะถือว่าสิ้นสุดการแข่งขันในรอบของทีมตนเอง สำหรับการตัดสินอยู่ที่ “เสียงอูด” อันเป็นเอกลักษณ์ โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในการฟังเสียงว่าวจำนวน 3 ท่าน จะร่วมกันพิจารณาให้คะแนน แบ่งเกณฑ์การให้คะแนนออกเป็น 3 ส่วนหลัก ส่วนละ 10 คะแนน ได้แก่ คะแนนจากเสียงที่ดังกังวาน คะแนนความคมชัดของเสียง และคะแนนจังหวะการเปลี่ยนเสียง ซึ่งถือเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของว่าวดุ๊ยดุ่ยที่ผู้เข้าแข่งขันแต่ละทีมได้สร้างสรรค์ภูมิปัญญาลงในตัวว่าวเพื่อให้เกิดเสียงที่ไพเราะจับใจกรรมการและผู้ชมมากที่สุด
สุภาพร นิยมกิจ
ทีมข่าว จันทบุรี










