พลังงานกระบี่สร้างความตระหนักรู้ด้านพลังงานในสถานศึกษาเผยแพร่ความรู้โรงไฟฟ้าฐานพลังงานหมุนเวียนระดับชุมชนและรูปแบบอื่นเน้นย้ำทุกคนต้องรักชาติไม่ให้กัมพูชาและประเทศที่สามยึดผืนแผ่นดินไทย


เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2568 เวลา 09.00 นาฬิกา ที่โรงเรียนเมืองกระบี่ ถนนศรีตรัง เขตเทศบาลเมืองกระบี่ ตำบลกระบี่ใหญ่ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมสร้างความตระหนักรู้ด้านพลังงานในสถานศึกษาของจังหวัดกระบี่ ภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพในการสร้างความตระหนักรู้ด้านพลังงาน ผ่านเครือข่ายความร่วมมือด้านพลังงานในส่วนภูมิภาค ปีงบประมาณ 2569 ซึ่งมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายปีที่ 4 – 5 จำนวน 100 คน เข้ารับการฝึกอบรม

โดยมีนายอาทิตย์ บิลสัน ผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองกระบี่ พร้อมด้วยข้าราชการครู ร่วมให้การต้อนรับและเข้าร่วมอบรมในครั้งนี้ด้วย
การนี้นายธีศิษฎ์ สองเมือง พละงานจังหวัดกระบี่ กล่าวรายว่าความเป็นมาของโครงการและวัตถุประสงค์ว่า สำนักงานพลังงานจังหวัดกระบี่ ได้รับมอบหมายจากกองส่งเสริมและพัฒนาพลังงานภูมิภาค กระทรวงพลังงาน ในการขับเคลือนแผนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าฐานซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการพื้นของระบบ เช่นโรงๆไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ตัวอย่างโรงไฟฟ้าขรอม จังหวัดนครศรีธรรมราช และพลังงานหมุนเวียนระดับชุมชน เช่นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานชีวมวล ตลอดจนพลังงานรูปแบบอื่นๆ รวมทั้งการเผยแพร่ถ่ายนทอดรณรงค์และสร้างเครือข่ายความร่วมมือของประชาชน ผ่านโครงการเพิ่มศักยภาพในการสร้างความตระหนักรู้ด้านพลังงาน ผ่านเครือข่ายความร่วมมือด้านพลังงานในส่วนภูมิภาค
เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมรับรู้ต่อการสื่อสารและเผยแพร่ความรู้ เกี่ยวกับโรงวไฟฟ้าฐานและพลังงานหมุนเวียนระดับชุมชน ตลอดจนพลังงานรูปแบบอื่นๆ เพื่อให้เกิดการสร้างเครือข่ายในสถานศึกษาหรือชุมชนที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าว สำหรับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าฐานและพลังงานหมุนเวียนระดับชุมชน ตลอดจนพลังงานรูปแบบอื่นๆ ซึ่งการให้ความรู้ในวันนี้แบ่งออกเป็น 2 ช่วงคือ ช่วงแรกเป็นการบรรยายในหัวข้อนโยบายด้านพลบังงาน เรื่องการประหยัดพลังงาน เทคโนโลยีพลังงาน และโรงไฟฟ้าเบื้องต้น ช่วงสองเป็นการบรยายและสาธิตการตรวจวัดและวิเคราะห์การใช้พลังงานเบื้องต้น
โอกาสนี้นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า โครงการฝึกอบรมให้ความรู้แก่นักเรียนในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักเรียนและสถานศึกษา ที่จะได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องพลังงาน และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ การถ่ายทอดความรู้เรื่องพลังงานซึ่งเป็นฐานรากสำคัญในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ขอให้นักเรียนและครูรวมถึงอาจารย์ที่เกี่ยวของกับเรื่องดังกล่าว ได้ตั้งใจในการรับความรู้ และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตนเองครอบครัวและสถานศึกษาต่อไปอย่างเป็นรูปมธรรม และมีความยั่งยืนตลอดไป
นายอังกูร ยังได้กล่าวฝากไปถึงนักเรียน ครู และอาจารย์ ของโรงเรียนเมืองกระบี่ เกี่ยวกับเรื่องความรักชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ไทย โดยให้ข้อแนะนำและข้อคิดที่ได้ประสบการณ์มาเป็นตนเองว่า ตอนพาครอบครัวไปชมภาพยนตร์ซึ่งมีผู้เข้าชมประมาณ 50 คน เมื่อถึงเพลงสรรเสริญพระบารมี ที่คนไทยทุกคนจะต้องยืนตรงแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณต่อชาติ ศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ปรากฏว่ามีเพียงครอบครัวของตนที่ไปด้วยกัน จำนวน 4 คนเท่านั้นที่ยืนตรง นั้นแสดงให้เห็นความเด็ก เยาวชน และประชาชนคนไทยเหล่านี้ เขาไม่มีความรู้ความเข้าใจต่อ 3 สถาบันหลักของชาติไทย เขาไม่เคยได้ยินความเป็นมาของชาติไทย ไม่เคยได้ยินและได้เรียนประวัติศาสตร์ชาติไทยนมาก่อนเลย หรืออาจจะถูกชักจูงจากกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่มีความเกลียดชังต่อสถาบันดังกล่าว
ดังนั้นจึงขอให้ครู อาจารย์ ร่วมถึงผู้บริหารสถานศึกษา ได้มีการศึกษาความเป็นมาและประวัติศาสตร์ชาติไทยให้ท้องแท้ และนำมาใช้ในบทเรียนเพื่อปลูกฝังความรักชาติแก่เด็กนักเรียน ให้มีความรู้ความเข้าใจว่าประเทศไทยเกิดขึ้นมาได้เพราะอะไร เพราะเป็นความร่วมมือความรักความสามัคคีกลมเกลี่ยวเป็นหนึ่งเดียวในการสร้างชาติขึ้นมาจนถึงปัจจุบัน โดยประเทศไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของประเทศใดในโลก อย่างเช่น ณ เวลานี้เหตุการณ์ด้านชายแดนไทย – กัมพูชา ที่เกิดการสู้รบกันเพราะกัมพูชาต้องการผืนแผ่นดินไทยที่เคยให้อาศัยอยู่ในตอนสงครามเขมรแดง จนกระทั้งไม่ยอมคืนแผ่นดินกลับให้ไทย ปักหลังสร้างบ้านเรือนทำมากินมาโดยตลอด แม้ว่าไทยจะปะท้วงต่อนานาชาติแล้วก็ตามแต่ไม่เป็นผล แถมประเทศที่ 3 ยังเข้ามายุ่งเกี่ยวเพื่อกดดันประเทศไทยอีกด้วย ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่คนไทยที่อยู่ด้านหลังจะต้องทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด และเอาใจช่วยตำรวจ ทหาร ที่ค่อยปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติด้วยเลือดเนื้อและชีวิต จึงขอให้ทุกคนจงตั้งใจรวมตัวเป็นหนึ่งเดียวกันให้เกิดความรักความสามัคคีในการปกป้องชาติไทย อย่าให้กัมพูชาและประเทศมือที่สามเข้ามายึดครองผืนแผ่นดินไทยแม้แต่ตารางเดียว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *