ผู้ว่าและนายกกาชาดกระบี่นำคณะกรรมการลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนให้กำลังใจนักเรียนทุนพระราชทานรุ่น 17 ปี 2568 ระดับจังหวัด 2 คนที่จะเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัว 28 ธันวาคมนี้


เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 นาฬิกา นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนางศรินทิพย์ ศีลาเทวากูล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดกระบี่ และประธานชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดกระบี่ และคณะกรรมการคัดเลือกทุนพระราชทานมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร ระดับอำเภอและระดับจังหวัดกระบี่ ร่วมเดินทางลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนติดตามผลการเรียนและให้กำลังใจนักเรียน ที่ได้รับการคัดเลือกรับทุนพระราชทานดังกล่าวรุ่นที่ 17 ประจำปีการศึกษา 2568 จำนวน 2 คน

ส่วนผลการเรียนประจำปีการศึกษา 2568 ของนักเรียนทั้ง 2 คนอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม มีความสนใจและขยันหมั่นเพียร ให้ความช่วยเหลือเพื่อนฝูงตลอดเวลา รู้จักแบ่งเวลาในการเรียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้งานสังคมส่วนร่วมเข้าร่วมทุกกิจกรรมอีกด้วย ซึ่งนักเรียนดังกล่าวจะเข้าเฝ้ารับพระราชทานทุนดังกล่าวในวันที่ 28 ธันวาคม 2568
โดยจุดแรกไปพบนายวีรภัทร แถวทัศ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนอ่าวลึกประชาสรรค์ ที่บ้านเลขที่ 10 / 5 หมู่ที่ 5 ซอยตะเคียน บ้านคลองแรด ตำบลแหลมสัก อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ผลการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 วิชาวิทยาศาสตร์และวิชาคณิตศาสตร์ เกรด 4.00 ซึ่งครอบครัวของนักเรียนคนดังกล่าวพ่อแม่แยกทาง โดยอาศัยอยู่กับแม่ในที่ดินและบ้านของป้า นางสาวมาณิกาญจ์ สุขดี เนื้อที่ 10 คูณ 20 ตารางวา ซึ่งบิดาและมารดามีอาชีพธุรกิจส่วนตัว มีรายได้ 48,000 บาทต่อเดือน ซึ่งวีรภัทร มีทัศนคติและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เข้าร่วมทุกกิจกรรมและเป็นตัวทานนักเรียนวางพานพุ่มวันสำคัญของสถาบลันพระมหากษัตริย์ มีความเสียสละและศรัทธาในศาสตร์ของพระราชาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ให้ความช่วยเหลือเพื่อนและน้องในโรงเรียน ทั้งให้ความร่วมมือต่อกิจกรรมขจองโรงเรียนอีกด้วย มีทักษะการพูดดีมากมั่นใจนำเสนอตอบคำถามเรียนรู้ได้เร็ว มีทักษะเด่นด้านนาฎศิลป์ไทย และจิตาสา มีความรับปิดชอบ อาชีพในอนาคตแพทย์อายุรศาสตร์
จุดที่สองที่โรงเรียนกาญจนภิเษกวิทยาลัยกระบี่ เพื่อพบกับนายณรงค์ศักดิ์ ชูรักษ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ผลการเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 วิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เกระ 3.99 ซึ่งมีความไขว่ขวัญกยาดเป็นทหารอากาศ ซึ่งครอบครัวอยู่บ้านเลขที่ 342 / 6 หมู่ที่ 6 ตำบลกรุงหยัน อำเภอทั่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ในพื้นที่และบ้านของตนเองเนื้อที่ประมาณ 84 ตารางวา บิดามีอาชีพเป็นพนักงานบริษัท มารดามีอาชีพค้าขาย มีรายได้ 65,000 บาทต่อเดือน ซึ่งนายณรงค์ศักดิ์ มีทัศนคติเป็นแกนนำและร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ มีทักษะความสามารถความสนใจพิเศษด้านเทมคโนโลยี ประสบความสเร็จในการเรียนการแข่งขันทักษะทางวิชาการด้านคอมพิวเตอร์และหุ่นยนต์ระดับประเทศ รักสุขภาพ ออมเงินซื้อเครื่องออกกำลังกายด้วยตนเอง เพื่อพัฒนาสุขภาพต่อเนทื่องสู่อาชีพในอนาคตมหารอากาศให้ความช่วยเหลือเพื่อนและน้องในโรงเรียน ทั้งให้ความร่วมมือต่อกิจกรรมขจองโรงเรียนอีกด้วย
ส่วนผลการเรียนประจำปีการศึกษา 2568 ของนักเรียนทั้ง 2 คนอยู่ในรับดีเยี่ยม มีความขยันหมั่นเพียร ให้ความช่วยเหลือเพื่อนฝูงตลอดเวลา รู้จักแบ่งเวลาในการเรียนให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้งานสังคมส่วนร่วมเข้าร่วมทุกกิจกรรมอีกด้วย
โดยนายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ด้วยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีพระราชดำริให้ดำเนินโครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นเมื่อ ปี 2552 ทรงให้นำพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์และเงินบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศล มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามพระราชปณิธานที่มุ่งสร้างโอกาสทางการศึกษาที่มั่นคงแก่เยาวชนไทยที่ประพฤติดีมีควาสามารถในการศึกษา ให้ได้รับโอกาสศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายต่อเนื่องจนสำเร็จปริญญาตรีตามความสามารถของแต่ละคน อันเป็นการลงทุนเพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถและศักยภาพแก่เยาวชนไทย ต่อมาในปี 2553 ทรงให้จัดตั้งมูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หรือ ม.ท.ศ. ทรงเป็นองค์ประธากรรมกา และให้นำโครงการทุนการศึกษาดังกล่าวมาอยู่ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิฯ เพื่อให้เกิดความยั่งยืนสืบต่อไป
การดำเนินงานโครงการทุนการศึกษามีกลไกคณะกรรมการมูลนิธิฯ กำกับดูแลอำนวยการระดับนโยบาย และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนงาน ม.ท.ศ. ช่วยขับเคลื่อนประสาความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งมีกลไกคณะกรรมการระดับจังหวัดทุกจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ร่วมดำเนินการคัดเลือกคัดสรรผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมจากทุกจังหวัด เพื่อเข้าสู่การพิจารณากลั่นกรองให้รับทุนพระราชทา ม.ท.ศ. รวมทั้งติดติมดูแลนักเรียนผู้ได้รับทุนตลอดระยะเวลาที่เป็นนักเรียนทุนพระราชทานจนสำเร็จการศึกษา และติดตามการทำงานการบำเพ็ญประโยชน์ทำจิตอาสาเพื่อประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวม
นายอังกูร กล่าวอีกว่า โครงการทุนการศึกษาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมสนับสนุนเด็กและเยาชนไทยที่เรียนดีประพฤติดีมีคุณธรรม ด้วยกาพระราทานทุนกาศึกษาะดับชั้นมัธยมศึกษาอนปลา แก่ผู้ที่จบกาศึกษาชั้นมัธยมศึกษาที่ 3 ให้มีโอกาสศึกษาอระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ สายอาชีพ และศึกษาต่อเนื่องไปจนจบปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ในสาขาที่เป็นความต้องการของประเทศสาขาขาดแคลน สาขาด้านความมั่นคงและเข้าสู่การมีอาชีพอย่างมั่นคง รวมทั้งการพระราชทานทุนเป็นกรณีๆตามที่คณะกรรมการ ม.ท.ศ. จะเห็นสมควร เพื่อเสริมสร้างทัศนคติที่ถูกต้องดีงามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และประเทศชาติ บ่มเพาะความมีวินัยรวมทั้งพัฒนาศักยภาพความสามารถการเรียนรู้ให้เป็นผู้ใฝ่เรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีทักษะชีวิตทักษะอาชีพอันจะช่วยสร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคงเข้มแข็งแก่เด็กและเยาวชนไทย ผู้ได้รับทุนพระราชทานเป็นนักเรียนทุนในพระองค์ฯ สามารถเติบโตเป็นคนดีมีคุณภาพนำความรู้กลับไปทำงานพัฒนาท้องถิ่นชุมชนมีสัมมาชีพมั่นคงเป็นพลเมืองที่ทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *