สนง.กกต.อุดรจัดเตรียมความพร้อม เลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 22 ธันวาคม ที่ห้องสยามมนต์ตรา 1 โรงแรมสยามแกรนด์ ถนนเลี่ยงเมือง อ.เมืองอุดรธานี นายพิสิษฐ์ชัย อภัยปิยกุล รอง ผวจ.อุดรธานี ได้เป็นประธาน “โครงการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (อบต.)ครบวาระและยกฐานะกิจกรรมประชุมชี้แจงแผนการปฏิบัติงานและแผนการรณรงค์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลและนายกองค์การบริหารส่วนตำบล”

จัดโดย สนง.กกต.ประจำจังหวัดอุดรธานี ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 11 มกราม 2569 โดยมี น.ส.สมิหรา เดชะอังกูร ผอ.สนง.กกต.ประจำจังหวัดอุดรธานี นำ หน.ส่วนราชการระดับจังหวัด ระดับอำเภอ ผอ.ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับกรรมการและเลขานุการศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย (ศส.ปชต.) เครือข่ายสถานศึกษา สื่อมวลชนและดีเจประชาธิปไตย เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ รวมทั้งสิ้น 400 คน
นายพิสิษฐ์ชัย กล่าวว่า จากการรายงานของ นางสาวสมิหรา เดชะอังกูร ผอ.กกต.ประจำจังหวัดอุดรธานี ทำให้ทราบว่าในขณะนี้ สภาพของ ส.อบต.และนายก อบต.ได้หมดวาระลง เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 และทาง กกต.ได้ระบุให้มีการเลือกตั้ง นายก อบต.และ ส.อบต.ขึ้นมาเพื่อให้การบริหารงานต่อเนื่องตามกฎหมายท้องถิ่น ในวันที่ 11 มกราคม 2569 นี้ ในวันนี้ทาง สนง.กกต.ประจำจังหวัดอุดรธานี จึงได้เตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งในครั้งนี้โดยได้จัดทำโครงการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน ในการเลือกตั้ง ส.อบต.และนายก อบต. สำหรับกิจกรรมในวันนี้เป็นการประชุมชี้แจงแผนการปฏิบัติงานและแผนการรณรงค์ ปชส.การเลือกตั้งเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ผู้เข้าร่วมประชุมในหัวข้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเลือก ในเรื่องของบทบาทหน้าที่ของ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปโดย (ศส.ปชต.) และเครือข่าย ในการขับเคลื่อนกิจกรรมรณรงค์ ปชส.การเลือกตั้ง และในเรื่องแนวทางการดำเนินกิจกรรมรณรงค์ในพื้นพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม
นายพิสิษฐ์ชัย อภัยปิยกุล รอง ผวจ.อุดรธานี กล่าวในตอนท้ายว่า อย่างไรก็ตามก็ขอฝากให้ผู้เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ ได้นำเอาความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับในวันนี้นำไปประยุกต์ใช้ในการประชาสัมพันธ์การเลือกตั้งให้เข้าถึงประชาชนในวงกว้าง โดยเน้นการสื่อสารที่สร้างสรรค์ ชัดเจน และเข้าใจง่ายเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของสิทธิของตนเอง อันจะนำไปสู่การสร้างพลเมืองที่มีคุณภาพในระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง










