ศึกข้างชนช้าง วันแรกการรับสมัคร ส.ส.เขียงใหม่ คึกคัก “บิ๊กจวบ”นำพรรคกล้าธรรม” ส่ง รองนายกฯ เล็ก ชิงเขต 1 ด้าน “เพื่อไทย-ประชาชน” ประกาศทวงคืนศักดิ์ศรีเจ้าของพื้นที่

เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2568 บรรยากาศการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตของจังหวัดเชียงใหม่วันแรก ณ อาคารยิมเนเซียม 2 สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี เต็มไปด้วยความคึกคัก ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ก่อนเวลา 08.00 น. ท่ามกลางกองเชียร์ที่ขนอุปกรณ์เชียร์ รถแห่ และธงสัญลักษณ์พรรคมาให้กำลังใจผู้สมัครกันอย่างเนืองแน่น ในช่วงเวลา 08:10 น.นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กกตและผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ หลังจากเวลา 08.30 น. คณะกรรมการการเลือกตั้งได้ตกลงต่อผู้มายืนสมัครที่มาก่อนเวลา จะจับชื่อ 2 ครั้ง เรียกลำดับจับรายชื่อ และจับหมายเลขยืนสมัคร เป็นเลขผู้สมัคร

บิ๊กเซอร์ไพรส์! “กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม” ผนึก “กล้าธรรม” ส่งคนใกล้ชิดลงสนาม
ไฮไลต์สำคัญของวันแรกคือการปรากฏตัวของ “รองอ๋อง” นายภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ อดีตรองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ที่ลาออกมาลงสมัคร ส.ส. เขต 1 ในนาม “พรรคกล้าธรรม” ภายใต้การสนับสนุนของกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม นำโดย นายอัศนีย์ บูรณุปกรณ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ท่ามกลางความประหลาดใจของผู้สังเกตการณ์ทางการเมือง

สองพรรคใหญ่ “เพื่อไทย-ประชาชน” เปิดศึกทวงคืนพื้นที่ ด้านพรรคการเมืองใหญ่ต่างแสดงความพร้อมเต็มอัตราศึก โดยพรรคเพื่อไทย นำโดย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ และ “สว.ก๊อง” นายพิชัย เลิศพงษ์อดิศร ขนผู้สมัครครบทั้ง 10 เขต ประกาศภารกิจ “ทวงคืนพื้นที่” มั่นใจนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจจะทำให้คว้าชัยชนะยกจังหวัด หลังจากคราวก่อนเสียที่นั่งไปหลายเขต ทางด้านพรรคประชาชน นำโดย นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้ช่วยหาเสียง ยืนยันความพร้อมในฐานะแชมป์เก่า 7 เขต โดยครั้งนี้ยังคงใช้ผู้สมัครเดิมเป็นหลัก ผสมกับคนรุ่นใหม่ในเขตที่เหลือ มั่นใจว่าการเมืองไทยตอนนี้เหลือเพียง 2 ขั้ว และประชาชนจะยังคงมอบความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ต่อ

ในส่วนของพรรคอื่นๆ พร้อมสู้ศึก ไม่หวั่นกระแสพรรคใหญ่ อาทิพรรคพลังประชารัฐสุรพล เกียรติไชยากร แกนนำในพื้นที่ ยืนยันทีมงานยังเข้มแข็งแม้พลเอกประวิตรจะถอนตัวจากแคนดิเดตนายกฯ โดยชูนโยบายแก้ปัญหาปากท้องเป็นหลัก นอกจากนี้พรรคประชาธิปัตย์ ส่งสมาชิกพรรค ร่วมชิงชัยทั้ง 10 เขต เช่นกัน

นายนเรศ ธำรงทิพยคุณ แกนนำพรรคกล้าธรรม เผยว่า มั่นใจในผลงานที่ผ่านมาและความใกล้ชิดประชาชนจะส่งผลให้พรรคปักธงในเชียงใหม่ได้สำเร็จ โดยมีพล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข ผู้สนับสนุนพรรคฯ เดินทางมาให้กำลังใจแก่ผู้สมัครทั้ง 10 ของพรรคฯ

โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 1 มีแชมป์เก่า และตัวแทนจากกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม ซึ่งเป็นนักการเมือง ปัจจุบันเป็นคณะผู้บริหารเทศบาลนครเชียงใหม่ นำโดยอัศนีย์ บูรณุปกรณ์ นายกเทศบาลนครเชียงใหม่ ส่งรองนายกฯ ลาออกมาลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ เป็นสมาชิกกล้าธรรม ที่ทำเอาหลายคนถึงกับอึ่ง ไปตามๆกัน หลังจากจับได้หมายเลขของผู้สมัครแต่ละเขต เสียงของบรรดากองเชียร์ โฮร้องเชียร์ ชูส่งเสียงเลขของผู้สมัครของตนเองบริการด้านหน้าสถานที่รับสมัคร พร้อมมอบและมอบพวงมาลัยโดยเฉพาะดอกดาวเรืองให้แก่ผู้สมัคร ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับไปหาเสียงในเขตของตนเองทันที

‘รองอ๋อง’ หรือนาย ภวฤทธิ์ กาญจนเกตุ อดีตรองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวว่าการตัดสินใจของกลุ่มเชียงใหม่คุณธรรมที่ส่งตนเองลงสมัครในครั้งนี้ ในนามพรรคกล้าธรรม ‘เพราะกล้าทำ’ ตามที่ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า  แคนดีเดทนายรัฐมนตรีองพรรคกล้าธรรม กล้าที่ทำ กล้าที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ ปัญหาการจราจรต่างๆ ที่บางอย่างท้องถิ่นไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องระดับรัฐบาล จึงทำให้ต้องมีคนเชื่อม หากตนได้รับเลือกตั้งปัญหาต่างๆ จะได้รับการเชื่อมร่วมกับรัฐบาลเสนอแก้ไขปัญหาร่วมไปกับท้องถิ่น เพราะบางอย่างท้องถิ่นทำได้ และทำไม่ได้ เพราะพรรคกล้าทำและทำจริงๆ จึงตัดสินเข้าร่วมกับพรรคกล้าธรรม มีความพร้อมมีความมั่นใจได้รับชัยชนะ ในครั้งนี้ เพราะเห็นจากการที่ร้อยเอกธรรมนัส กล้าทำ ดูจากการพัฒนาจังหวัดพะเยาหากย้อนไปเมื่อก่อน ตนเองก็อยากจะพัฒนาเมืองเชียงใหม่ ให้ดีกว่า ใหม่กว่าและแก้ปัญหาได้

ทางนายนพดล สุยะ ผู้อำนวยการ กกต.เชียงใหม่ เผยว่าภาพรวมวันแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีการใช้กำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอย่างเต็มที่ เนื่องจากเชียงใหม่เป็นพื้นที่ที่มีการแข่งขันสูง ทั้งนี้จากสถิติปี 2566 เชียงใหม่มีผู้มาใช้สิทธิสูงถึง 81.98% และคาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะได้รับความสนใจจากประชาชนมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ทางด้านหน้าที่ลงรับสมัครรับเลือกตั้ง ยังมีการประชาสัมพันธ์เรื่องการพร้อมทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับในวันที่ 8 ก.พ. 2569 โดยใช้คำถาม “ท่านเห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” เป็นความพยายามของภาคประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเปลี่ยนผ่านไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยมีมติเห็นชอบให้วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และวันทำประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยมี คำถามหลักคือ “ท่านเห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่” เพื่อปูทางสู่การตั้ง สสร. ที่มาจากการเลือกตั้ง 100% อีกด้วย.//////// นิวัตร ธาตุอินจันทร์ เชียงใหม่