นครปฐม – ชาวบ้านสุดทนการรอคอยตัดใจสละทรัพย์สร้างถนนเอง

นครปฐม – ชาวบ้านสุดทนการรอคอยตัดใจสละทรัพย์สร้างถนนเอง
ชาวบ้านหมดความหวังจากหน่วยงานภาครัฐกรณีถนนพัง ที่ผู้รับเหมารายใหญ่ขุดบ่อดิน แล้วทิ้งปัญหาให้กับชาวบ้านกว่า 100 ครอบครัว เผชิญกับชะตากรรมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายกันเอาเอง แม้จะมีการร้องเรียนกันไปแล้วหลายรอบ สุดท้ายก็ไม่เห็นมีอะไรคืบคลานแม้แต่ตารางนิ้วเดียว สุดท้ายต้องรวมพลังกรีดเลือดตัวเอง สละทรัพย์สินร่วมกันสร้างถนนใช้เป็นทางเข้าออก เพื่อลูกหลานไปโรงเรียน และประกอบอาชีพทำมาหากิน หารายได้ผ่อนที่ดินที่ซื้อกันไว้


จากกรณีที่ชาวบ้านกว่า 100 ครอบครัว ในพื้นที่จัดสรร ณ สวนเกษตร ม.8 ต.นราภิรมย์ อ.บางเลน จ.นครปฐม ได้รับผลกระทบต่อการดำรงชีวิตกันมายาวนานกว่า 4 ปี เรื่องถนนคอลกรีตที่ติดขอบบ่อดินของนายทุนใหญ่ เนื้อที่กว่า 90 ไร่ ที่ชาวบ้านใช้เป็นสายหลักในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้านทั้ง 7 ซอย เกิดพังทลายเป็นแนวยาว ถนนคอลกรีตแตกพังและยุบตัว ล่วงลงสู่บ่อดินจำนวนหลายสิบเมตร เป็นเหตุให้ชาวบ้านไม่สามารถใช้เป็นทางเข้าออกของหมู่บ้านได้อย่างสะดวก ถึงใช้ได้ก็ต้องเสี่ยงกับชีวิตและทรัพย์สิน หากพลาดนิดเดียวรถอาจตกล่วงลงไปในบ่อได้ทุกเวลา โดยเฉพาะบริเวณทางแยกเข้า ซ.2 ขณะนี้ถนนพังทรุดตัว เหลือเพียงช่องทางเลี้ยวเข้าซอยเพียงนิดเดียวเท่านั้น ที่ผ่านมาชาวบ้านจำเป็นต้องใช้เป็นทางเข้าออกอยู่เป็นประจำทุกวัน ทั้งส่งลูกไปโรงเรียน และต้องออกไปประกอบอาชีพทำมาหากิน เพื่อหารายได้ผ่อนที่ดินที่ซื้อกันไว้ ต้องคอยระมัดระวังกันสุด ๆ หากพลาดเพียงนิดเดียวก็อาจกลายเป็นเรื่องเศร้าทันที เรื่องนี้นับเป็นความทุกข์อย่างแสนสาหัสของชาวบ้านแห่งนี้จริง ๆ แม้จะมีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่าง ๆ แล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววของการช่วยเหลืออะไร แม้ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 ที่ผ่านมาชาวบ้านได้รวมตัวกันเข้าประชุม ร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่ห้องประชุม อ.บางเลน จ.นครปฐม โดยมีนายวิวัฒน์ ศรีประทีบ เป็นประธานการประชุม พร้อมกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผลการประชุมเบื้องต้นทางหน่วยงานต่าง ๆ ยินดีให้ความช่วยเหลือด้านงบประมาณ โดยให้นายก อบต.จัดทำเอกสารพร้อมหลักฐานไปยื่นให้กับหน่วยงานนั้น ๆ เพื่อนำไปพิจารณาเข้าแผนงบประมาณต่อไป สุดท้ายก็ยังไม่ได้ข้อยุติที่ชัดเจน ว่าจะมีการช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วนอะไรได้เลย ชาวบ้านก็คงต้องรอต่อไปอีก 2-5 ปี ก็ยังหาคำตอบไม่ได้
ล่าสุดชาวบ้านไม่อาจที่จะรอการช่วยจากใครได้อีกแล้ว จึงมีการปรึกษาหารือร่วมกัน ด้วยการสละทรัพย์คนละเล็กละน้อย ตั้งแต่ 300,500,1,000 และ 2,000 บาท รวมรวมเพื่อซื้อดินและหินคลุก มาถมที่ทำเป็นทางเข้าออกชั่วคราว เป็นเส้นทางใหม่เพื่อความปลอดภัยให้กับชาวบ้าน โดยหมดความหวังกับการพึ่งหน่วยงานภาครัฐอีกต่อไป
ผู้สื่อข่าว นายพิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ (12 ส.ค.68)
ภาพ น.ส.ศิวาพร ศรีศิวานุวัฒน์ (จ.นครปฐม)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *