ปทุมธานี – ปิดเกม! รวบหนุ่มแสบ 3 หมายจับ ตุ๋นขายบ้านซ้อนบ้าน เหยื่อช้ำเสียเงินดาวน์-ไร้ที่อยู่

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายวิริยะฯ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 3 หมายจับ ดังนี้

  1. ศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.528/2563 ลงวันที่ 26 ต.ค.63 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
  2. หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ จ.209/2563 ลง 2 มิ.ย.63 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยักยอก”
  3. หมายจับศาลแขวงนนทบุรี ที่ จ.403/2563 ลง 27 ต.ค.63 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”

สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านพัก ซอย10/2 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

พฤติการณ์ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอศ. ปิดฉากคนร้ายหนีหมายจับเกือบ 5 ปี ภายใต้นโยบายการระดมกวาดล้างอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเปิดปฏิบัติการ “แผนยุทธการ พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี” เพื่อติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับและผู้กระทำความผิด ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ กก.3 บก.ปอศ. ได้ รวบหนุ่มวัย 31 ปี ก่อเหตุสุดแสบ ใช้ช่องโหว่แคมเปญบ้านผ่อนง่าย ปลอมเอกสารสิทธิ์หลอกขายบ้านซ้ำซ้อนให้เหยื่อ หวังเงินดาวน์ก้อนโต สุดท้ายเหยื่อผ่อนลม ถูกล็อกบ้านไร้ที่อยู่
พฤติการณ์ของคนร้ายรายนี้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2563 นายวิริยะฯ ได้ซื้อบ้านจากโครงการหนึ่ง ที่จัดแคมเปญ“ซื้อบ้านง่าย ไม่ตรวจเครดิต” แต่แทนที่จะเข้าอยู่เอง กลับมองเห็นช่องทางในการหลอกลวง ประชาชน นายวิริยะฯ ได้วางแผนหลอกลวงเหยื่อโดยเริ่มจากการปลอมแปลงเอกสารสัญญา เปลี่ยนชื่อผู้ซื้อ เป็นบุคคลอื่นเพื่อปกปิดสถานะการผ่อนชำระของตนเอง จากนั้นจึงนำบ้านไปประกาศขายดาวน์ผ่านเฟซบุ๊ก ชูจุดเด่นด้วยราคาผ่อนต่อเดือนที่ถูกกว่าความเป็นจริงเพื่อดึงดูดใจผู้ที่อยากมีบ้าน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ และตกลงทำสัญญา นายวิริยะฯ จะหลอกให้วางเงินดาวน์ก้อนแรกกว่า 200,000 บาท และรับเงินผ่อน รายเดือนจากเหยื่อ

หลังจากผู้เสียหายจ่ายเงินดาวน์และผ่อนค่างวดไปได้เพียง 1 เดือน บ้านที่อาศัยอยู่กลับถูกล็อกกุญแจ พร้อมมีป้ายประกาศแจ้งว่า “ค้างชำระค่างวด” ทำให้ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบความจริง จึงได้รู้ว่าถูกหลอก เนื่องจากชื่อในสัญญาที่แท้จริงไม่ใช่ชื่อของนายวิริยะฯ แต่เป็นชื่อบุคคลอื่นที่ถูกปลอมแปลง ขึ้นมา ทำให้ตนเองต้องสูญเสียทั้งเงินดาวน์ก้อนโต เงินที่ลงทุนปรับปรุงบ้านไป และยังต้องไร้ที่อยู่อาศัย จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี หลังจากการรวบรวมพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับนายวิริยะฯ รวม 3 หมายจับ แต่นายวิริยะฯ ได้หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. ได้สืบสวนแกะรอยจนทราบว่า นายวิริยะฯ ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่ จ.ปทุมธานี จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด หลังหลบหนีการจับกุมมานานเกือบ 5 ปี และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *