ชาวไร่เพชรบูรณ์ 7 พันคน ปิดสี่แยกราหุล กดดันรัฐอุ้มราคาข้าวโพด
วันที่ 18 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดจากหลายอำเภอในจังหวัดเพชรบูรณ์กว่า 7,000 คน ได้รวมตัวชุมนุมใหญ่ปิดถนนบริเวณสี่แยกราหุล อำเภอบึงสามพัน เพื่อกดดันรัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ และการจำกัดปริมาณการรับซื้อจากโรงงาน ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ต้องเปิดเส้นทางเบี่ยงให้ผู้ใช้รถหลีกเลี่ยงไปใช้ถนนสายรองแทน
ผู้ชุมนุมนำป้ายข้อความแสดงความเดือดร้อน อาทิ “ข้าวโพดราคาตกต่ำ ชาวไร่ล้มละลาย” และ “ขอความเป็นธรรมให้เกษตรกร” โดยแกนนำยืนยันว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นไปอย่างสันติ แต่หากรัฐบาลไม่ตอบสนองข้อเรียกร้องอย่างชัดเจน จะยกระดับการเคลื่อนไหวและเคลื่อนขบวนเข้าสู่กรุงเทพฯ สำหรับข้อเรียกร้องหลักของกลุ่มเกษตรกรประกอบด้วย 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่
- การชดเชยและประกันราคาข้าวโพดเพิ่มขึ้น 30% กำหนดราคาที่ 7.50 บาทต่อกิโลกรัม ตามข้อมูลอ้างอิงในจังหวัดเพชรบูรณ์
- การจัดทำมาตรการช่วยเหลือและพยุงราคาอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมชดเชยรายได้ปี 2568 เต็มจำนวนตามที่เกษตรกรขึ้นทะเบียนไว้
- การควบคุมการนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้กระทบต่อราคาผลผลิตภายในประเทศ
ต่อมา นายศรัณยู มีทองคำ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอบึงสามพัน และนายอำเภอหนองไผ่ ได้ลงพื้นที่รับหนังสือข้อเรียกร้องจากตัวแทนเกษตรกร โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์เข้าร่วม ได้แก่ นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ ส.ส.เขต 5, น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส.เขต 1 และนายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์ ส.ส.เขต 3
นางวันเพ็ญกล่าวกับผู้ชุมนุมว่า ในวันที่ 19 สิงหาคมนี้ จะนำตัวแทนเกษตรกรเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหา พร้อมยืนยันว่าส.ส.เพชรบูรณ์ทั้ง 6 เขต จะร่วมผลักดันอย่างเต็มที่ โดยที่ผ่านมา นายวรโชติ สุคนธ์ขจร ส.ส.เขต 4 เคยอภิปรายเรื่องนี้ในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า จึงนำไปสู่การเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในวันนี้
ด้านเกษตรกรผู้ชุมนุมเปิดเผยว่า ปีนี้ต้นทุนการผลิตเพิ่มสูงขึ้นจากราคาปุ๋ยและสารเคมี ขณะที่ราคาข้าวโพดตกต่ำ และโรงงานยังจำกัดการรับซื้อ ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้สินได้ตามกำหนด หากรัฐบาลยังไม่ออกมาตรการที่เป็นรูปธรรม จะยกระดับการเคลื่อนไหว โดยอาจนำผลผลิตข้าวโพดมากองในพื้นที่ชุมนุมเพื่อแสดงเชิงสัญลักษณ์
ผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะรอฟังคำตอบจากรัฐบาลภายในวันที่ 22 สิงหาคม หากยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ก็พร้อมขยายการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ต่อไป
หลังการยื่นข้อเรียกร้องและการเจรจา กลุ่มเกษตรกรได้ทยอยแยกย้ายกลับบ้านอย่างสงบ รวมเวลาการชุมนุมกว่า 2 ชั่วโมง โดยแกนนำระบุว่าจะติดตามท่าทีของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาที่จับต้องได้ต่อไป.
