มหกรรมความสำเร็จการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวกระบี่เสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง

มหกรรมความสำเร็จการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวกระบี่เสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากมั่นคงกระตุ้นความสนใจสร้างแรงบันดาลใจในการร่วมมือของทุกภาคส่วน
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 เวลาท 10.00 นาฬิกา ที่ห้องประชุมช้างเผือกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ถนนท่าเรือ หมู่ที่ 7 บ้านคลองหิน ตำบลไสไทย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานเปิดกิจกรรมหกรรมความสำเร็จการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ และมอบประกาศเกียรติคุณให้แก่ผู้ได้รับรางวัลคนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีดีเด่นระดับจังหวัด ตามโครงการเชิดชูเกียรติคนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ประจำปี 2568 จำนวน 7 รางวัล เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการเป็นต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมาย 100 คน ประกอบด้วยคณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดและอำเภอ บุคลากรหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้แทนกลุ่ม องค์กร ภาคีเครือข่ายการพัฒนาชุมชนเข้าร่วม
โดยมีนายชัยวุฒิ ครุฑมาศ พัฒนาการจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมดังกล่าวว่า เพื่อเผยแพร่ผลสำเร็จการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวจังหวัดกระบี่ และเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากมั่นคง เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากมั่นคง กระตุ้นความสนใจและเสริมสร้างแรงบันดาลใจในการร่วมมือของทุกภาคส่วนในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน และเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากมั่นคงในระดับพื้นที่ กิจกรรมในวันนี้ประกอบด้วยการจัดนิทรรศการแสดงความสำเร็จการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จากทั้ง 8 อำเภอของจังหวัดกระบี่ เวทีเสวนาเพื่อเผยแพร่ผลสำเร็จ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ แนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน รวมถึงการดำเนินงานขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน การเดินแบบผ้าไทยใส่ให้สนุก การมอบรถเข็นวิลแชร์ จำนวน 8 คันในพื้นที่ 8 อำเภอให้กับคนพิการ

นายชัยวุฒิ กล่าวอีกว่า กรมการพัฒนาชุมชนเป็นหน่วยยุทธศาสตร์ภาครัฐในการพัฒนาชนบทด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคงและสร้างชุมชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืนด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางเปิดกว้างและเชื่อมโยงข้อมูลให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และเป็นองค์กรที่มีสมรรถนะสูง โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางเพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องประชาชน ลดขั้นตอน มีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล เกิดความคุ้มค่าและอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนด้วยการขับเคลื่อนโดยการเชื่อมโยงแผนปฏิบัติราชการ ผ่านโมเดล 4 เอสคือ เอส 1 แสตงค์ S การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ให้สามารถบริหารจัดการ และพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน ด้วยการยกระดับชุมชนพ้นจากความยากจน ส่งเสริมสัมมาชีพชุมชนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้ประชาชนพึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืน ส่งผลให้มีปราชญ์สัมมาชีพชุมชนกว่า 150 คน ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน 102 คน และอาสาพัฒนาชุมชนกว่า 400 คน อาสาสมัครผู้ประสานงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกว่า 400 คน ครัวเรือนยากจนเป้าหมายได้รับการช่วยเหลือและดูแลประชาชนกว่า 700 ครัวเรือน ประชาชนกว่า 90,000 ครัวเรือน เกิดความมั่นคงทางอาหารและส่งเสริมการปลูกผักและสมุนไพรทุกครัวเรือนกว่า 30 ชนิด เอส 2 สเตดดี้ การส่งเสริมและยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง ส่งเสริมให้คนในชุมชนมีอาชีพ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี เกิดการรวมกลุ่ม ขับเคลื่อนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ให้มีผลิตภัณฑ์โอท๊อป และการท่องเที่ยวโดยชุมชน ส่งผลให้ประชาชนมีรายได้เฉลี่ยกว่า 100,000 บาทต่อคนต่อปี ผู้ผลิต ผู้ประกอบการโอท๊อป จำนวน 913 ราย ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นกว่า 2,000 ผลิตภัณฑ์ และประชาชนมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์โอท๊อปop เพิ่มขึ้นกว่า 1,400 ล้านบาท กระตุ้นเศรษฐกิจผ้าไทยให้มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 23 ล้านบาท

นายชัยวุฒิ กล่าวต่อไปอีกว่า เอส 3 ไซเนอร์ยี่ การสร้างความร่วมมือและส่งเสริมบทบาทเครือข่ายการพัฒนาชุมชนเพื่อยกระดับงานพัฒนาชุมชนให้ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการร่วมมือกับ 7 ภาคีเครือข่ายการพัฒนา เกิดเป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม Social enterprise ดำเนินการภายใต้การพัฒนาเศรษฐกิจและประชารัฐผ่านการขับเคลื่อนจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัด สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอ เครือข่ายการพัฒนาชุมชนสามารถขับเคลื่อนชุมชนสู่ความเข้มแข็งและเกิดการเชื่อมโยง และเกิดความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้เกิดกองทุนแม่ของแผ่นดิน 268 กองทุน หมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดิน 10 กองทุน หมู่บ้านป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยกองทุนแม่ของแผ่นดิน 131 กองทุน คณะกรรมการพัฒนาสตรี กว่า 400 คณะ คณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีกว่า 450 คณะโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน 189 กองทุน คณะกรรมการแก้ไขปัญหาความยากจนกว่า 189 คณะ ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคกหนองนาโมเดล 915 ศูนย์ บริษัทประชารัฐรักสามัคคีวิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด 1 บริษัท ชุมชนท่องเที่ยว จำนวน 47 แห่ง กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต 185 กลุ่ม มีเงินสัจจะสะสมกว่า 140 ล้านบาท และเอส 4 สเป็คเชียรลิสต์ การพัฒนาองค์กรให้ทันสมัยมีสมรรถนะสูงและมีธรรมาภิบาลบุคลากรมีอุดมการณ์และเชี่ยวชาญในงานพัฒนาชุมชนให้ความสำคัญกับบุคลากรในการปรับกระบวนความคิด ทันสมัยใกล้ชิดชุมชน เป็นเพื่อนคู่คิดเป็นพันธมิตรในการทำงานกับภาคีทุกภาคส่วน เปรียบได้ว่าพัฒนากรคือศรัทธาที่เดินได้ เป็นเส้นประสาทสุดท้ายของราชการ ที่ยื่นไปสัมผัสพี่น้องประชาชน เพื่อมุ่งสู่ระบบราชการ 4.0 นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ใช้กับการทำงานให้มีขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย ส่งผลให้เกิดซีดีดีกระบี่บิ๊กดาต้า ประชาสัมพันธ์แอพพลิเคชั่นคลิกชุมชน

การนี้นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นด้านเศรษฐกิจพอเพียง การท่องเที่ยว และวิถีชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ จึงจำเป็นต้องอาศัยแนวทางที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน และการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นแนวทางในการพัฒนาเสริมสร้างความร่วมมือของทุกภาคส่วน ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
และเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากมั่นคงในระดับพื้นที่ เพื่อให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม กิจกรรมในวันนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงผลงานความสำเร็จการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน การส่งเสริมการพัฒนาอาชีพและรายได้เป็นกระบวนการสะท้อนความร่วมมือของทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมกันขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในระดับพื้นที่อย่างเป็นระบบ ทั้งในด้านการส่งเสริมอาชีพ การพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ การจัดการทรัพยากรในชุมชน การสร้างความเข้มแข็งชุมชน และเศรษฐกิจฐานราก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานมหกรรมในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงความสำเร็จในเชิงกิจกรรม แต่สามารถถ่ายทอดเป็นต้นแบบหรือแนวปฏิบัติที่ดีให้กับพื้นที่อื่นๆ ได้มีการเชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐภาคเอกชนและภาคประชาชน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพชีวิตในระยะยาว โดยยึดหลักการมีส่วนร่วม