สกลนคร – วัชพืชจอกหูหนูยักษ์ยึดเขื่อนน้ำอูน ควรกำจัดทิ้งหรือเอามาทำประโยชน์

หากจะพูดถึงจอกหูหนู วัชพืชที่มีอยู่ในประเทศไทย ยังไม่นับสาหร่าย หรือผักตบชวา แต่การที่มีวัชพืชชนิดนี้มีทั้งผลดีและผลเสีย ซึ่งผลดีก็คือสามารถนำไปวิจัยผลิตเป็นปุ๋ย อาหารสัตว์ และใช้เป็นส่วนผสมทำยารักษาโรค ส่วนผลเสียนั้นหากขยายพันธุ์ตามแหล่งท่องเที่ยวแล้วจะควบคุมยาก เพราะเจริญเติบโตเร็ว จะกระจายไปทุกที่หากที่ใดมีแหล่งน้ำและตายยาก

นายเอกพร รักความสุข ส.ส.สกลนคร แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เดินทางไปที่เขื่อนน้ำอูน บ้านแร่ ต.แร่ อ.พังโคน จ.สกลนคร ซึ่งมีพื้นที่รอยต่อกับ อ.วาริชภูมิ และ อ.นิคมน้ำอูนทีาเคยเรียกว่าเป็นหาดพัทยา ซึ่งพบว่าที่นี่มีจอกหูหนูยักษ์จำนวนมาก เรียกว่าครอบคลุมพื้นที่หลายร้อยไร่ และจะกระจายออกไปตามกระแสทิศทางของลม ซึ่งบางวันก็ถูกลมพัดมารวมกันที่ปากกระโถนหรือสปีลเวย์ ทำให้ทัศนียภาพของเขื่อนไม่สวยงาม

บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ที่หาดสวนหินหรือหาดพัทยา บ.ดงคำโพธิ์ ต.วาริชภูมิ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาพักผ่อนหย่อนใจจำนวนมาก สร้างเศรษฐกิจให้แก่ชาววาริชภูมิไม่น้อย แต่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาไม่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเหมือนเมื่อก่อน ทำให้สวนหินถูกทิ้งร้างไม่คึกคัก เนื่องจากมีจอกหูหนูมายึดพื้นที่หาดไปหมด เด็กๆที่จะลงเล่นน้ำก็ไม่กล้าลงเพราะจะคันตามเนื้อตัวร่างกายเพราะน้ำไม่สะอาด แม้ว่าจะช่วยกันนำไม้ไผ่มากั้นไว้ก็ไม่สำเร็จ พื้นที่ชายหาดก็ยังเต็มไปด้วยจอกหูหนู เพราะในแต่ละปีได้เพิ่มปริมาณมากขึ้น

นายเอกพร รักความสุข กล่าวว่า จะพยายามช่วยพี่น้องให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตการค้าขาย การท่องเที่ยวของที่นี่ให้กลับมาเช่นเดิม โดยต้องใช้เวลาในการประสานให้หน่วยงานต่างๆเข้ามากำจัด โดยอาจจะนำไปวิจัยว่าจะสามารถนำไปทำอะไรได้บ้าง เช่น นำไปสกัดเป็นส่วนผสมของยารักษาโรค นำไปแปรรูปเป็นอาหารสัตว์ หรือนำไปทำปุ๋ยหมัก จำหน่ายให้เกษตรกรในราคาถูก เพราะเรามีสถาบันการศึกษาทำการวิจัยหลายแห่ง เรามีเครื่องจักรของชลประทาน และ ของ อบจ.สกลนคร เข้ามาเก็บกวาดให้สะอาดสวยงาม เชื่อว่าการท่องเที่ยวของเขื่อนน้ำอูนจะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง

“เรื่องดังกล่าว ผมได้ยื่นกระทู้ต่อ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า
ตามที่ปรากฏว่าพื้นที่เขื่อนน้ำอูน ได้ประสบปัญหาการแพร่กระจายของจอกหูหนูยักษ์” (Giant Salvinia) อย่างรุนแรงต่อเนื่องยาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2566 เป็นการทำลาย
ทัศนียภาพอันสวยงามของเขื่อนน้ำอูน ตลอดจนส่งผลต่อระบบนิเวศน์และการระบายน้ำ ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้อยู่ในความ สนใจของประชาชนที่อยู่รอบพื้นที่เขื่อนน้ำอูน มีความกังวลในเรื่องนี้ที่อาจลุกลามบานปลาย เป็นปัญหาที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตของคนสกลนคร ตลอดจนปัญหาดังกล่าวนี้ ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบและเร่งด่วน ด้วยข้อเท็จจริงและเหตุผลดังกล่าวมานี้ จึงขอเรียนถามว่า

รัฐบาลมีแนวทางแก้ไขปัญหาการแพร่กระจายของจอกหูหนูยักษ์ในเขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร ให้ทันสถานการณ์ทั้งในด้านการกำจัด การควบคุบคุมการแพร่ขยาย โดยบูรณาการทุกหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
หรือไม่ อย่างไร,รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณเป็นกรณีเร่งด่วน เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนในการลดพื้นที่ผิวน้ำที่มีจอกหูหนูยักษ์ให้หมดจากผิวน้ำโดยเร็วที่สุดหรือไม่ อย่างไร, รัฐบาลมีแนวทางสร้างชุมชนรอบพื้นที่เขื่อนน้ำรุน เพื่อดูแลพื้นที่ผิวน้ำขอนน้ำชยนน้ำซุนอย่างไรบ้าง “
นายเอกพร กล่าว

//////////////////วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร 0819541528

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *