พบวัตถุคล้ายโดรนบินใกล้สนามบินอุดรฯ รองผู้ว่าฯ สั่งคุมเข้มทุกพื้นที่

พบวัตถุคล้ายโดรนบินใกล้สนามบินอุดรฯ รองผู้ว่าฯ สั่งคุมเข้มทุกพื้นที่
อุดรธานีสั่งทุกหน่วยงานเฝ้าระวังในพื้นที่เข้ม หลังเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้จะมีข้อตกลงหยุดยิง แต่มีรายงานตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน รุกล้ำเข้ามาในเขตประเทศไทย ทั้งที่ทางการไทยประกาศห้ามบิน“โดรน”ในพื้นที่อย่างเคร่งครัด ล่าสุดในอุดรธานี ช่วงค่ำของวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมามีผู้คนสามารถบันทึกภาพวัตถุคล้ายโดรน บินอยู่ใกล้กับกองบิน 23 อุดรธานีและสนามบินนานาชาติอุดรธานี หน่วยงานหลักยังไม่ออกมาชี้แจงอย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวระดับสูงอ้างเป็นเพียงแค่เครื่องบิน บินผ่านในพื้นที่

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 4 สิงหาคม 2568 ที่ห้องประชุมคำชะโนด ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายพิสิษฐ์ชัย อภัยปิยกุล รอง ผวจ.อุดรธานี ประธานการประชุมรักษาความปลอดภัยอาคาร สถานที่ และพื้นที่สำคัญ จ.อุดรธานี มี พ.อ.สุดเขตต์ พลยะเรศ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 24 , ว่าที่ร้อยตรีรักชัย เลิศสุบิน ปลัด จ.อุดรธานี , พ.อ.วุฒิชัย สุคนธวัฒน์ เสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 24 , พ.ต.อ.จามร อันดี รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี , หน่วยงานด้านความมั่นคง หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน ผู้ใช้งานโดรนภาคเอกชน และส่วนราชการที่ใช้งานโดรนในพื้นที่ เข้าร่วมประชุม พร้อมประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยัง 20 อำเภอ
ในที่ประชุมฯ ได้รายงานสรุปสถานการชายแดนไทย-กัมพูชา และแผนงานการรักษาความปลอดภัย สถานที่ราชการ ระบบสาธารณูปโภค สถานที่สำคัญของภาครัฐ และภาคเอกชน ตลอดจนรายงาน “โดรน” ที่ลงทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายในพื้นที่ 1,575 ลำ มีบุคคลต่างด้าวใน จ.อุดรธานีทั้งที่เข้าเมืองถูกกฎหมาย 90 วัน 90 สัญชาติ กว่า 16,776 คน เดินทางมาท่องเที่ยวใน จ.อุดรธานี 200,000 คน เป็นแรงงานต่างด้าวที่มีใบอนุญาตทำงาน ณ 25 ก.ค.2568 จำนวน 4,019 คน เป็นแรงงาน 4 สัญชาติกัมพูชา เวียดนาม ลาว เมียนมา 3,440 คน แยกเป็นแรงงานกัมพูชา 367 คน นายจ้างกัมพูชา 82 ราย , เวียดนาม 32 คน , ลาว 1,628 คน และเมียนมา 1,413 คน ระหว่างมีเหตุปะทะกันที่ชายแดนไทย-กัมพูชา มีแรงงานเดินทางกลับภูมิลำเนา 10 ราย และจับกุมแรงงานกัมพูชาหลบหนี้เข้าเมือง 8 ราย
ที่ประชุมได้พิจารณาให้บังคับใช้กฎหมาย ตามประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง ห้ามบังคับหรือปล่อยอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (Drone) (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 และประกาศการรักษาความปลอดภัยอาคาร สถานที่ และพื้นที่สำคัญของจังหวัดอุดรธานี ตามหนังสือ จ.อุดรธานี ด่วนที่สุด ที่ อด 0018.2/5812 ลงวันที่ 3 สิงหาคม 2568 ตลอดจนให้ผู้ครอบครองโดรน ดำเนินการขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง พร้อมประชาสัมพันธ์ขอให้ประชาชน ร่วมกันเป็นหูเป็นตา พบเห็นโดรนให้ถ่ายคลิป ถ่ายภาพ ระบุวัน เวลา สถานที่ แจ้งตำรวจ หน่วยทหารและหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ รวมทั้งขอความร่วมมืองดการถ่ายทอดสดหรือไลฟ์สดในสถานที่ราชการหรือสถานที่สำคัญในพื้นที่ทุกกรณีในห้วงนี้ จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

ในการประชุมครั้งนี้ รอง ผวจ.อุดรธานี ได้สั่งการให้อำเภอจัดทำแผนการรักษาความปลอดภัยอาคาร สถานที่ และพื้นที่สำคัญของอำเภอ ,จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ (War room) และชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อเข้าถึง พื้นที่ที่ได้รับรายงานโดยเร็ว ,ขอให้อำเภอสร้างการรับรู้ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จิตอาสา ประชาชนในพื้นที่ได้ตื่นตัวร่วมเป็นกำลังสำคัญเป็นเหมือนตาสัปปะรด เฝ้าระวังสอดส่องดูแลรัศมี 3-5 กม. รอบสถานที่สำคัญทุกช่องทาง ,บูรณาการหน่วยงานด้านความมั่นคง ออกตรวจพื้นที่สำคัญ อาคารสถานที่ เตรียมการระวังป้องกันภายในจังหวัด และบูรณาการออกตรวจตราแรงงานชาวกัมพูชา และนายจ้าง ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา มีชาวบ้านบางส่วนสังเกตเห็นวัตถุมีแสงกระพริบ บินนิ่งอยู่บนท้องฟ้าประมาณ 30 นาที จุดที่พบเห็นอยู่บริเวณบ้านช้าง เทศบาลนครอุดรธานี รอยต่อบ้านหนองใหญ่ เทศบาลตำบลบ้านจั่น หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับสนามบินนานาชาติอุดรธานี และกองบิน 23 จ.อุดรธานี จากนั้นวัตถุดังกล่าวได้บินหายไปทางบ้านนาดี ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งจากการสอบถามแหล่งข่าวระดับสูง ยังไม่มีการระบุว่าเป็นอากาศยานไร้คนขับหรือโดรน แต่คาดว่าจะเป็นเครื่องบินที่บินผ่านในพื้นที่ โดยยังไม่มีการสรุปอย่างเป็นทางการ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า บริเวณโดยรอบของ มณฑลทหารบกที่ 24 ค่ายประจักษ์ศิลปาคม จ.อุดรธานี และกองบิน 23 อุดรธานี ซึ่งตั้งอยู่ถนนทหาร เขตเทศบาลนครอุดรธานี หรือด้านทิศตะวันตกของ ทน.อุดรธานี ซึ่งถือเป็นพื้นที่สำคัญด้านความมั่นคง ในอดีตที่ผ่านมาแผนที่ดาวเทียมของ “กูเกิ้ล” ภาพของ 2 หน่วยทหารจะไม่ชัดเจน แต่ปัจจุบันกลับเห็นได้ชัดเจน รวมไปถึงมีการใช้สัญญาณควบคุม “โดรน” หากติดพื้นที่ของ บน.23 อุดรธานี จะไม่สามารถสตาร์เครื่องโดรนได้ ห่างออกไปก็จะควบคุมความสูง แต่คืนวันที่ 2 ส.ค.ที่ผ่านมา กลับมีผู้เห็นโดรนบินเหนือ บน.23 อุดรธานี ด้านทิศตะวันตก
