ผลงาน1 ปี กับ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” กับตำแหน่ง รมว.ทส. และภารกิจพลิกฟื้นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

ผลงาน1 ปี กับ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” กับตำแหน่ง รมว.ทส. และภารกิจพลิกฟื้นทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สร้างสมดุลเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน


ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) ระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2567 ถึง 12 กันยายน 2568 ได้ทุ่มเททำงานอย่างหนักและต่อเนื่อง เพื่อผลักดันนโยบายรัฐบาลในการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เสื่อมโทรม รวมถึงบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การทำงานภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่งเน้น “สมดุลของระบบนิเวศ” ควบคู่กับ “คุณภาพชีวิตของประชาชน” ได้ก่อให้เกิดผลงานที่โดดเด่นอย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุม 12 ประเด็นยุทธศาสตร์สำคัญ


สานต่อพระราชปณิธานและยกระดับคุณภาพชีวิต
.

  1. ดร.เฉลิมชัย ได้สนองงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กรอบ “21 โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ” ซึ่งมี 16 โครงการแล้วเสร็จ และอีก 5 โครงการอยู่ระหว่างดำเนินการ
    .
    สำหรับอีกหนึ่งในผลงานสำคัญคือโครงการ “พลิกฟื้นผืนป่า สืบสานวิถีชีวิตที่ดีสู่ชุมชน เฉลิมพระเกียรติฯ” ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียว เสริมสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างเครือข่ายชุมชนดูแลป่าในระยะยาว รวมถึงกิจกรรม “พฤกษามหามงคล” ที่มีการปลูกต้นไม้ “ต้นที่ 72 ล้าน” และแจกกล้าไม้มงคลกว่า 101,010 ต้นแก่ประชาชน
    .
    นอกจากนี้ยังมีการติดตามโครงการจัดสร้างพิพิธภัณฑ์องค์ความรู้เรื่องไม้มีค่าฯ และโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าจังหวัดกาญจนบุรีที่มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์กับการดำรงชีพของประชาชน รวมไปถึงการขับเคลื่อนโครงการอนุรักษ์ทะเลไทยตามแนวพระราชดำริและการพัฒนาเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน
    .
  2. การอนุรักษ์ ฟื้นฟู และบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงฯ ได้ผลักดันกฎกระทรวง เพื่อยกเว้นภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างสำหรับพื้นที่ป่าชายเลน สำหรับคุ้มครองระบบนิเวศชายฝั่ง มีการประยุกต์ใช้โดรนปลูกป่าบนเกาะสีชังเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และดำเนินมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายป่า โดยมีการตรวจยึดคดีบุกรุกกว่า 230-259 คดี รวมพื้นที่กว่า 3,996.8 ไร่ และคดีไม้ของกลาง 128 คดี
    .
    ส่วนในด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพครบ 76 จังหวัด และดำเนินมาตรการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง เช่น การปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นรวมกว่า 15,180 เมตร
    .
    นอกจากนี้ ยังขยายเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) เป็น 296,113 คนทั่วประเทศ
    .
  3. การแก้ไขปัญหาสัตว์ป่าและผลกระทบ ดร.เฉลิมชัย ได้เร่งรัดการจัดการความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่า โดยขับเคลื่อน 6 มาตรการหลัก เช่น การสร้างแนวป้องกัน 25 กิโลเมตร การทดลองใช้วัคซีนคุมกำเนิด และการใช้โดรนติดตามโขลง ซึ่งช่วยลดความสูญเสียลงได้ร้อยละ 10
    .
    สำหรับสัตว์ป่าอื่นๆ มีการจับลิง 4,960 ตัว และทำหมัน 1,862 ตัว โดยเฉพาะในจังหวัดลพบุรี รวมถึงการจับอีกัวน่าชนิดพันธุ์ต่างถิ่น 435 ตัว พร้อมกันนี้ ได้ประกาศใช้หลักเกณฑ์และวิธีการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสัตว์ป่าอย่างเป็นทางการ โดยกำหนดอัตราช่วยเหลือกรณีเสียชีวิต 100,000 บาท และบาดเจ็บสูงสุด 30,000 บาท ซึ่งได้ให้ความช่วยเหลือไปแล้ว 13 ราย เป็นเงิน 796,930 บาท
    .
  4. การยกระดับมาตรฐานการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยว กระทรวงฯ ได้นำโดรนมาช่วยขนย้ายขยะในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการ และพัฒนาระบบบริหารจัดการนักท่องเที่ยวผ่าน “E-Ticket” เพื่อลดปัญหาเงินรั่วไหลและเพิ่มความโปร่งใส
    .
    ที่สำคัญมีการขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกธรณีสำคัญของประเทศเพิ่ม 2 แห่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ และเปิดพิพิธภัณฑ์ซากดึกดำบรรพ์ฯ จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการศึกษาธรณีวิทยาที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ทั้งยังเร่งรัดโครงการก่อสร้างสวนสัตว์แห่งใหม่คลองหก จังหวัดปทุมธานี และการประชาสัมพันธ์ “หมูเด้ง” ที่ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สร้างรายได้ให้สวนสัตว์เปิดเขาเขียวเพิ่มกว่า 40 ล้านบาท และจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 80
    .
  5. การจัดการการใช้ประโยชน์ในที่ดินป่าไม้ ดร.เฉลิมชัย ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยของประชาชนในพื้นที่ป่าไม้ โดยผลักดันให้คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ และเร่งรัดการมอบเอกสารสิทธิ์การใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติให้ประชาชนจำนวนมาก เช่น ในจังหวัดนครศรีธรรมราช 11,676 ราย (79,498 ไร่) และจังหวัดเชียงใหม่ 15,978 ราย (99,477 ไร่) กรมป่าไม้ยังออกประกาศรับรองการอยู่อาศัยทำกินแบบแปลงรวม 159 โครงการ ใน 27 จังหวัด ครอบคลุมกว่า 2.29 ล้านไร่ ภายใต้เงื่อนไข “ปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง”
    .
  6. การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม กระทรวงฯ ได้เปิด “ศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังควบคุมไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ” ณ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับมือปัญหา PM2.5 และไฟป่า โดยระดมเฮลิคอปเตอร์ 7 ลำ และอากาศยานปีกตรึง 1 ลำ ปฏิบัติการบินรวม 714 ชั่วโมง ทิ้งน้ำดับไฟป่า 2,103 เที่ยวบิน ส่งผลให้ค่า PM2.5 สูงสุดลดลงร้อยละ 20 และจำนวนวันที่ค่าฝุ่นสูงเกินเกณฑ์ลดลง 92 วัน เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินมาตรการจัดการกากอุตสาหกรรมและของเสียอันตราย ตรวจสอบการลักลอบทิ้งกว่า 17 กรณีใน 3 ไตรมาส และผลักดัน (ร่าง) พระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการลงพื้นที่ติดตามปัญหาสารเคมีปนเปื้อนในแม่น้ำกกและแม่น้ำโขง จังหวัดเชียงราย
    .
  7. การจัดการน้ำเพื่ออุปโภคบริโภคและการเกษตร ดร.เฉลิมชัย ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการจัดหาและพัฒนาแหล่งน้ำบาดาล 485 แห่ง (954 บ่อ) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ซึ่งคาดว่าจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชน 30,674 ครัวเรือน เพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนกว่า 34.54 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และรองรับพื้นที่เกษตรกรรม 47,480 ไร่ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยใน 27 จังหวัด โดยจัดส่งเครื่องสูบน้ำ 99 เครื่อง สูบน้ำกว่า 22.63 ล้านลูกบาศก์เมตร และช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยแล้งใน 22 จังหวัด แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคกว่า 1.5 ล้านลิตร
    .
  8. ความร่วมมือกับต่างประเทศ กระทรวงฯ ได้แสดงบทบาทนำในเวทีระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เช่น การเปิดตัว “แผนปฏิบัติการร่วมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส” ร่วมกับรัฐมนตรีจาก สปป.ลาว และเมียนมา และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของประเทศภาคีข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 19 (COP-19)
    .
    นอกจากนี้ ยังลงนาม MOU ระหว่างไทย-กัมพูชา ว่าด้วยความร่วมมือแก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดน และเข้าร่วมการประชุม COP29 เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศ มีการเตรียมส่งคืนสัตว์ป่าของกลาง 291 ตัวให้สาธารณรัฐมาดากัสการ์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย
    .
  9. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน กระทรวงฯ ได้นำเทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) มาใช้ในหลายภารกิจสำคัญ อาทิ การขนย้ายขยะในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง การตรวจสอบเฝ้าระวังพื้นที่ป่า การสำรวจและติดตามสัตว์ทะเลหายาก และการปลูกป่าด้วยโดรนบนเกาะสีชัง สำหรับการรับมือภัยพิบัติ ได้ระดมเฮลิคอปเตอร์ 7 ลำ และอากาศยานปีกตรึง 1 ลำ ปฏิบัติการรวม 714 ชั่วโมง ทิ้งน้ำดับไฟป่า 2,103 เที่ยวบิน และจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย” เพื่อติดตาม เฝ้าระวัง และประเมินสถานการณ์ กรมอุทยานฯ ยังได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เพื่อนำเทคโนโลยีความมั่นคงมาประยุกต์ใช้ในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ และมีการอบรมบุคลากรด้าน AI และการใช้งานโดรน โดยมีการส่งมอบโดรนอัจฉริยะ 268 ลำ ครอบคลุมอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานทุกแห่ง
    .
  10. การเสริมสร้างขวัญกำลังใจและพัฒนาศักยภาพบุคลากร ดร.เฉลิมชัย ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยมีการมอบโล่รางวัลและเข็มเชิดชูเกียรติแก่ผู้ช่วยเหลือราชการ เกษตรกรดีเด่น และข้าราชการพลเรือนดีเด่น มีการจัดสรรเงินช่วยเหลือ 100,000 บาท ให้แก่ครอบครัวเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมทั้งลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าและเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าอย่างใกล้ชิด ในมิติการพัฒนาศักยภาพ ได้จัดฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ เช่น “การเป็นข้าราชการที่ดี” และ “การเสริมสร้างผู้บริหาร ทส. ยุคใหม่” และขับเคลื่อน “โครงการ ทส. สู่องค์กรคุณธรรมต้นแบบ” โดยน้อมนำศาสตร์พระราชาและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้
    .
  11. งานด้านนิติบัญญัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง กระทรวงฯ ได้ขับเคลื่อน (ร่าง) พระราชบัญญัติสำคัญหลายฉบับ อาทิ
  • (ร่าง) พระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด
  • (ร่าง) พระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • (ร่าง) พระราชบัญญัติความหลากหลายทางชีวภาพ
  • (ร่าง) พระราชบัญญัติการจัดการซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • (ร่าง) พระราชบัญญัติการจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างยั่งยืน
    .
    พร้อมทั้งมีกฎหมายลำดับรองและประกาศกระทรวงที่สำคัญมีผลบังคับใช้แล้ว เช่น กฎหมาย 12 ฉบับประกอบ พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ดร.เฉลิมชัย ยังได้ตอบกระทู้ถามในรัฐสภาอย่างต่อเนื่อง สะท้อนมาตรฐานการสื่อสารเชิงนโยบายที่โปร่งใสและตรวจสอบได้
    .
  1. การคุ้มครองอธิปไตยและการบริหารจัดการภัยพิบัติ ดร.เฉลิมชัย ได้ขับเคลื่อนภารกิจด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างเป็นระบบ ทั้งการเตรียมพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งใน 27 และ 22 จังหวัดตามลำดับ มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการธรณีพิบัติภัย เพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์แผ่นดินไหวและธรณีพิบัติภัย และเปิดศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังควบคุมไฟป่าภาคเหนือ
    .
    นอกจากนี้ ยังได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้ความช่วยเหลือเยียวยาและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และสั่งการให้กรมอุทยานฯ เร่งรัดการดำเนินงานตาม MOU กับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ เพื่อพัฒนาและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีป้องกันประเทศในการเสริมสมรรถนะการลาดตระเวน

ผลงานตลอด 1 ปีของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่ยึดหลักวิชาการ กฎหมาย และการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยยกระดับการคุ้มครอง ฟื้นฟู และใช้ทรัพยากรอย่างสมดุลเพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติในระยะยาว แต่ยังตอกย้ำบทบาทเชิงรุกของประเทศไทยในประชาคมระหว่างประเทศ และก้าวสู่การเป็นประเทศที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืนทัดเทียมสากล

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *