สองรองผู้ว่ารักษาการณ์ ผู้ว่าราชการ จ.พิษณุโลก แบ่งงานกันไปตรวจติดตามการรับมือสถานการณ์วิกฤต น้ำแม่น้ำน่านล้นตลิ่ง

สองรองผู้ว่ารักษาการณ์ ผู้ว่าราชการ จ.พิษณุโลก แบ่งงานกันไปตรวจติดตามการรับมือสถานการณ์วิกฤต น้ำแม่น้ำน่านล้นตลิ่ง ผนึกกำลังทั้งกำลังชาวบ้านและ ทหารจาก มทบ.39 ย้ำคืนนี้ถึง เที่ยงวันพรุ่งนี้ น้ำในแม่น้ำน่านจะสูงพีคสุด คาดรับสถานการณ์ได้ แต่หากสถานการณ์หนัก จะให้
ที่จุดต่ำสุดเขตอำเภอเมืองพิษณุโลก ของแม่น้ำน่าน ที่กำลังล้นตลิ่ง คือ ถนนริมสะพานข้ามแม่น้ำน่าน ม.1 บ้านบางพะยอม ตำบลหัวรอ นาย บุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ลงพื้นที่ไปตรวจสอบมาตรการป้องกันน้ำท่วม ที่เทศบาลตำบลหัวรอ ได้ทำคันดินแทนการวางกระสอบทราย หนาประมาณ 1 เมตร สูง 1.5 เมตร บดอัดแน่น เพื่อปิดกั้นการไหลของน้ำ ซึ่งสามารถลดแรงกระแทกของน้ำได้เป็นอย่างดี รองผู้ว่า ฯ ระบุว่า ในคืนนี้ ( 2 ต.ค.68) ถึงเที่ยงวันพรุ่งนี้ ( 3 ต.ค.68 ) น้ำในแม่น้ำน่าน จะสูงพีคสุด จากจุดวิกฤต 10.37 เมตร ไปแตะที่ 11 เมตร นอกจากจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำน่าน ยกของขึ้นที่สูง ป้องกันทรัพย์สินสิ่งของเสียหาย ทั้งการเตรียมวางกระสอบทราย อุดท่อระบายน้ำ เตรียมจัดสถานที่อพยพ โดยให้ทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช้แผนรับมือ แต่หากไม่สามารถกันน้ำทะลักเข้าสู่เมืองพิษณุโลกได้ เหมือนปี 38 หรือ ปี 54 ก็จะใช้แผนในการให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนทันที โดยมีการจัดเวรยามเฝ้าระวังตลอดทั้งคืน พร้อมส่งข้อความผ่านเซลล์ บอร์ด คลาส ถึงประชาชนทันที

ในขณะที่ นาย นิสิต สวัสดิเทพ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ได้ลงพื้นที่พร้อม พลตรี นพดล วัชรจิตรบวร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 39 ที่ได้นำกำลังทหาร 50 นาย พร้อม ประชาชนในพื้นที่ ตำบลพลายชุมพล อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ช่วยกันสร้างและปักหลักรอ พร้อมอัดกระสอบทรายเข้าไปใต้ถนนซีเมนต์ที่ถูกน้ำในแม่น้ำน่านกัดเซาะ จนดินด้านใต้ถนนพังทลายลง โดยเป็นการสร้างความแข็งแรงให้กับพื้นผิวจราจรให้สามารถใช้การได้ ในขณะที่น้ำในแม่น้ำน่าน กำลังเพิ่งสูงขึ้นตลอดเวลา ในขณะที่มีรายงานล่าสุดว่า ขณะนี้ น้ำในแม่น้ำน่าน ได้เอ่อท่วมที่ บ้านบุ่ง ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลกแล้ว ระดับน้ำยังสูงขึ้น ทาง อบต.ศรีภิรมย์ ได้ทำการย้ายผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และยกของมีค่าขึ้นที่สูงแล้ว