สถานการณ์น้ำที่ จ.พิษณุโลก วันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านเริ่มลดลง เหลือเพียงระดับเฝ้าระวัง

สถานการณ์น้ำที่ จ.พิษณุโลก วันนี้ระดับน้ำในแม่น้ำน่านเริ่มลดลง เหลือเพียงระดับเฝ้าระวัง ปลดธงแดง ติดธงสีส้ม แล้ว แต่ยังไม่ประมาท ยังเตรียมรับน้ำ ที่ปรับเป็นการระบายแบบขั้นบันไดมาตั้งแต่วันที่ 3 – 5 ต.ค. 68 ของเขื่อนสิริกิตต์ ที่แบกภาระน้ำในเขื่อนไว้ถึง 95 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ จากนี้น้ำจะทรงตัว หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และรอระบายลงที่ลุ่มต่ำ แต่จะไม่ท่วมพื้นที่เศรษฐกิจของ จ.พิษณุโลก แน่นอน
โดยวันนี้ นาย สันติ ปิยะทัต รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ

ได้ลงพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำและมาตรการป้องกันอุทกภัย โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจที่อาจได้รับผลกระทบจากระดับน้ำแม่น้ำน่านที่เพิ่มสูง จุดแรกคือที่ สถานีเฝ้าระวัง N.5A ริมแม่น้ำน่าน เชิงสะพานเอกาทศรถ โดย ได้รับการรายงานจาก นาย ชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก ว่าระดับน้ำได้พีคสูงสุด เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 68 10.42 เมตร ล้นตลิ่ง 5เซนติเมตร เมื่อมีการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำน่านได้อย่างลงตัวแล้ว ทำให้ระดับน้ำลดลง 10.10 เมตร ลดลงเฉลี่ย 1–2 เซนติเมตรต่อชั่วโมง แต่ทางชลประทาน ยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้จะมีน้ำจากเขื่อนสิริกิตต์ระบายน้ำเป็นระบบขั้นบันได ตั้งแต่ 3 – 5 ต.ค.68 จะระบายเพิ่มเป็น 25 ล้นลูกบากศ์เมตรต่อวัน จะส่งผลทำให้ระดับน้ำจะทรงตัวถึงเพิ่มขึ้นจากนี้เล็กน้อย จนกว่าจะระบายลงไปที่ จ.พิจิตร และ จ.นครสวรรค์ โดย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ และชื่นชม และให้ความมั่นใจว่า ทุกหน่วยงานมีความพร้อมในการรับมือ พร้อมในการแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที จนทำให้รอดพ้นจากการเกิดน้ำท่วมในเขตเศรษฐกิจของ จ.พิษณุโลก และจะได้ดูแลประชาชนที่ประสบภัย ในพื้นที่อื่น ๆ อย่างดีที่สุด
จากนั้น ได้มาที่ ศูนย์บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครพิษณุโลก มาให้กำลังใจ และชื่นชมเจ้าหน้าที่ ทั้ง เจ้าหน้าที่ของเทศบาลนคริษณุโลก ทหารจาก กองพันทหารม้าที่ 9 กองบิน 46 ตรวจภาค 6 และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย และ ร่วมกตัญญู และได้ลงแรงกรอกกระสอบทราย กับจิตอาสา และเจ้าหน้าที่เพื่อ นำไปเสริมแนวคันกั้นน้ำ
จากนั้น รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ยังได้เดินทางมามอบถุงยังชีพให้แก่ชาวบ้าน บ้านบางพยอม ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ที่ประสบอุทกภัยภัย แม่น้ำน่านเอ่อล้นตลิ่ง จำนวน 50 ครอบครัว และก็ยังได้ร่วมกับชาวบ้านตักทรายใส่กระสอบ เป็นการแสดงออกถึงการมีมีส่วนร่วม พร้อมพูดคุยกับชาวบ้าน และกล่าวว่า จะดูแลประชาชนที่ประสบภัยให้ดีที่สุด อีกทั้งยังขอบใจ เจ้าหน้าที่ทุกคนที่มีจิตอาสาช่วยเหลือประชาชน และมอบถุงยังชีพ ให้แก่ผู้ประสบภัย ด้วยมือตนเองทุกคนด้วย