รัฐมนตรีช่วยมหาดไทยลงบ้านเกิดติดตามงานพัฒนาชุมชนมอบนโยบายจังหวัดแรก

รัฐมนตรีช่วยมหาดไทยลงบ้านเกิดติดตามงานพัฒนาชุมชนมอบนโยบายจังหวัดแรกที่ดำรงตำแหน่ง 5 ข้อร่วมกันผลักดันให้กระบี่ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงในทุกมิติด้วยพลังของคนในพื้นที่
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 เวลา 15.00 นาฬิกา ที่ห้องประชุมช้างเผือกสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ หมู่ที่ 7 บ้านคลองหิน ตำบลไสไทย อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ นางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่บ้านเกิดจังหวัดกระบี่ และเป็นจังหวัดแรกที่ดำรงตำแหน่ง ไปพบปะหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกระบี่ คณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี คณะกรรมการพัฒนาสตรีระดับอำเภอและจังหวัด และกลุ่มองค์กรภาคีเครือข่ายพัฒนาชุมชน ทั้งติดตามผลการดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกระบี่ เพื่อเป็นการสร้างขวัญและให้กำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติงาน โดยมีนายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
โอกาสนี้นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดชายฝั่งทะเลอันดามันมีพื้นที่กว่า 4,700 ตารางกิโลเมตร มีเกาะน้อยใหญ่ 154 เกาะ ประชากรประมาณ 4.8 แสนคน ประกอบด้วยคนไทยพุทธ มุสลิม จีน และชาวเล ที่อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ภายใต้คำขวัญกระบี่เมืองน่าอยู่ผู้คนน่ารัก จังหวัดได้กำหนดวิสัยทัศน์การพัฒนา 20 ปีคือ เมืองท่องเที่ยวคุณภาพสูงและยั่งยืนระดับนานาชาติ เกษตรอุตสาหกรรมยั่งยืนสังคมน่าอยู่ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมุ่งเน้นการพัฒนาใน 4 ด้านหลักได้แก่ 1. การท่องเที่ยวคุณภาพและยั่งยืน 2. เกษตรแปรรูปและอุตสาหกรรมสะอาด 3. การพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน 4. การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจของจังหวัดขับเคลื่อนโดยภาคการท่องเที่ยวและเกษตรกรรม ซึ่งในปี 2567 มีรายได้จากการท่องเที่ยวกว่า 91,000 ล้านบาท และครึ่งปีแรกของปี 2568 มีรายได้กว่า 57,000 ล้านบาท ด้านเกษตรจังหวัดกระบี่เป็นแหล่งปลูกปาล์มน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และมีศักยภาพด้านประมงอาหารทะเล รวมถึงพลังงานทดแทนและเศรษฐกิจสีเขียว ภายใต้นโยบายกระบี่โกกรีน ภายใต้การกำกับดูแลของท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงมหาดไทย การบริหารราชการของจังหวัดยึดหลักการมีส่วนร่วมแบบบูรณาการ ระหว่างภาครัฐภาคเอกชนและประชาชน เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพและยั่งยืน

ทางนายสุรศักดิ์ อักษรกุล อธิบดีกรมพัฒนาชุมชน ได้รายงานผลการดำเนินงานของสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกระบี่และแนวทางในการทำงานว่า เน้นการทำงานเป็นทีมสร้างคนพัฒนางานประสานเครือข่ายผ่านกลไกการมีส่วนร่วมของชุมชน พัฒนาเศรษฐกิจชุมชนด้วยองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ควบคู่กันนำสู่เป้าหมาย เศรษฐกิจฐานรากมั่นคงชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืนด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ข้าราชการและเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนทุกคนขอยืนยันความมุ่งมั่นที่จะนำ นโยบายของรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย และกรมการพัฒนาชุมชน ไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็น รูปธรรมโดยยึดหลักเข้าใจเข้าถึงพัฒนา ตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ควบคู่กับการใช้หลักปฏิบัติการเชิงรุกใกล้ชิดประชาชนเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรมให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่
โดยนางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า มอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนงานพัฒนาชุมชนให้สอดคล้องกับนโยบาย สำคัญของรัฐบาล ที่มุ่งเน้น 4 เดือนแก้ 4 ภัย คืนความมั่นใจให้ประเทศโดยเฉพาะการเสริมสร้างศักยภาพของประชาชนในระดับฐานราก และการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคอย่างเท่าเทียม ที่ทุกคนอยู่รวมกันในห้องประชุมแห่งนี้จับมือกันขับเคลื่อนมีดังนี้ 1. เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง มั่งคั่ง ด้วยการสนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์โอท๊อปให้มีคุณภาพมาตรฐาน และความเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่ ส่งเสริมการตลาดยุคใหม่ทั้งตลาดออฟไลน์และออนไลน์เพื่อขยายโอกาสทางเศรษฐกิจของชุมชน เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวกับผลิตภัณฑ์และกิจกรรมของชุมชนเพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน 2. ขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่อย่างบูรณาการและยั่งยืน ด้วยการขยายผล โครงการโคกหนองนาโมเดลสู่การเป็นต้นแบบของการพึ่งตนเอง และการจัดการทรัพยากรอย่างสมดุล ผลักดันการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ให้เป็นแนวทางหลักในการพัฒนาชุมชน 3. ใช้ข้อมูลเป็นฐานสู่การพัฒนาที่ตรงจุด ด้วยการให้ความสำคัญกับ ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน TPMAP และ Big Data ด้านสังคมและเศรษฐกิจในพื้นที่ ใช้ข้อมูลเป็นเครื่องมือในการวางแผนการพัฒนา (One Plan) บูรณาการ และแก้ปัญหาความยากจนความเหลื่อมล้ำและความไม่เท่าเทียมในระดับพื้นที่ 

นางสาวศศิรธร กล่าวอีกว่า 4. เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับองค์กรภาคีเครือข่ายให้เป็นกลไกขับเคลื่อนการพัฒนา ด้วยการสนับสนุนบทบาทของผู้นำองค์กรสตรี ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชน อาสาพัฒนา องค์กรชุมชน และ ภาคีเครือข่าย ด้วยการยกระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนให้เป็นศูนย์กลางของการพัฒนา ด้วยกระบวนการประชาชนคิดประชาชนทำ รัฐสนับสนุน 5. เสริมสร้างธรรมาภิบาลในการทำงาน ด้วยการเน้นทุนชุมชนขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องทำงานด้วยความโปร่งใสมีจิตสำนึกในการรับใช้ประชาชน เน้นการบริการที่เป็นมิตรรวดเร็วและยึดผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง กระบี่ของเราเป็นเมืองแห่งทรัพยากรธรรมชาติ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาอันล้ำค่า จึงขอให้ทุกคน ร่วมกันผลักดันให้กระบี่ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคงในทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยพลังของคนในพื้นที่ ขอขอบคุณทุกท่านที่ทำงานหนักเสียสละและยืนหยัดเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนในการร่วมกันขับเคลื่อน นโยบายของรัฐบาลไปสู่ผลลัพธ์ที่จับต้องได้ รวมพลังสร้างชุมชนเข้มแข็งยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนพัฒนากระบี่พัฒนาประเทศไทยไปด้วยกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *