นายก ส.กีฬาอุดรจัดเลี้ยงขอบคุณนักกีฬา-โค้ช เผยสมาคมฯ ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้
นายก ส.กีฬาอุดรจัดเลี้ยงขอบคุณนักกีฬา-โค้ช เผยสมาคมฯ ต้องโปร่งใสตรวจสอบได้

เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 11 ตุลาคม ที่เวทีในสนามกีฬาเวสสุวัณ สนามกีฬากลางของเทศบาลนครอุดรธานี นายปิยพงศ์ ชูวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้เป็นประธาน ในงานเลี้ยงขอบคุณให้แก่นักกีฬาและผู้ฝึกสอนทุกคนของสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดอุดรธานี หลังจากที่ได้กลับมาจากเสร็จสิ้นจากการไปทำการแข่งขันกีฬาในนามตัวแทนของจังหวัดอุดรธานี โดยมี นายจิณณ์ ชัยรัตน์ นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดอุดรธานี พร้อมด้วยคณะกรรมการของสมาคมฯ และแขกผู้มีเกียรติมาร่วมจำนวนมาก
ก่อนหน้านี้นายจิณณ์ ชัยรัตน์ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าการที่ตนซึ่งทำงานธุรกิจแล้วได้หันมาสนใจในด้านกีฬานั้น ก็เนื่องจากว่าตนเป็นคนชอบในด้านกีฬา ชอบออกกำลังกาย เล่นกีฬาได้เกือบทุกชนิด แต่ก็ไม่ได้เก่งเพียงแต่ว่าเป็นชอบออกกำลังกาย เลยสนใจมาทำงานด้านกีฬาของจังหวัดอุดรธานี สำหรับในการเข้ามาทำงานในครั้งนี้ ตนมีเป้าหมายในการที่จะวางรากฐานให้กับนักกีฬาในจังหวัดอุดรธานี อยากจะให้กีฬามันครบวงจร โดยเริ่มตั้งแต่เล็กยันโต คือเสร็จการจากเลิกเล่นกีฬาแล้วอยากจะให้เขาผันตัวมาเป็นโค้ช สร้างรายได้
“ตนอยากที่จะผลักดันกีฬาให้เป็นอีกอาชีพหนึ่ง คือให้เขามีรายได้ ให้เขามีอาชีพเลี้ยงครอบครัวได้ สำหรับในการผลักดันเราไม่ได้เน้นในกีฬาชนิดไหน เราผลักดันทุกชนิดกีฬา ส่วนในการด้านการยั่งยืนของกีฬาของเราก็คือ 1. ตั้งแต่การวางรากฐาน ตั้งแต่เยาวชน ซึ่งสมาคมเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถจะทำได้เราก็ต้องวางแผนหาผู้ร่วมในการช่วย ทั้งทางจังหวัด อบจ.และเทศบาล มาช่วยร่วมกัน เพื่อยกระดับจังหวัดอุดรธานี

ซึ่งเริ่มต้นก็ต้องเริ่มตั้งแต่เยาวชน เสร็จแล้วก็เป็นประชาชน แล้วจึงเป็นอาวุโส ต้องเรียงไปตามลำดับ”
ในส่วนที่ว่าตนเป็นนักธุรกิจแล้วเข้ามาสนใจในเรื่องกีฬาแล้วจะเข้ามาทำการปรับปรุงกีฬานั้น ตนได้พูดตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคมฯ ว่าสมาคมเราต้องโปร่งใสกันตรวจสอบได้ แล้วเงินทุกบาททุกสตางค์ทั้งของนักกีฬาและโค้ชเขาต้องได้รับเต็มที่ อันนี้ตนได้พูดกับคณะกรรมการทีมงานทุกคน แม้แต่งานเลี้ยงต้อนรับนักกีฬาและโค้ชในวันนี้ก็ไม่ใช้เงินของสมาคมเลย

ส่วนที่มีว่าคนจะดูว่างานนี้จะไปเกี่ยวกับการเมืองหรือไม่นั้น ตนขอกล่าวได้ว่าเรื่องกีฬากับการเมืองอย่าเอาเกี่ยวโยงกันจะดีกว่า เพราะตนไม่ได้ก้าวเข้ามาสู่ตรงนี้เพื่อก้าวไปสู่การเมือง ตนไม่อยากจะกระทำอย่างนั้น กีฬาก็คือกีฬา แต่ตนก็ไม่ปฏิเสธ ก็เรื่องการเมืองนั้นตนก็สนใจอยู่แล้วตั้งแต่เล็กจนโต ก็ติดตามข่าวสารการเมืองตลอด เพราะคิดว่าการเมืองอยากให้ประเทศไทยยกระดับตัวเองขึ้นมา ตอนนี้ประเทศเวียดนามก็แซงเราไปแล้ว ตั้งแต่เล็กจนโตก็ไม่คิดว่าเวียดนามจะแซงประเทศไทยเราได้ ก็เราจึงใจในด้านนี้ แต่ถ้าถามว่าเอาตำแหน่งนี้มาเล่นการเมืองนั้นก็ขอตอบได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกัน ถ้าตนจะลงเล่นการเมืองนั้น ก็ไม่ได้อยู่ที่ตัวของตนหรือที่ตำแหน่ง มันขึ้นอยู่ว่าประชาชนจะเรียกร้องหรือไม่ อยากให้ตนลงไหม มันเป็นอย่างนี้
“ขณะนี้ตนก็วางแผนว่าจะไปเยี่ยมชมรมต่าง ๆ แล้วออกมาประชาสัมพันธ์ ให้พี่น้องประชาชนชาวอุดรธานีได้ทราบว่า ขณะนี้เรามีชมรมกีฬาอะไรบ้าง แล้วอยู่ที่ไหน เพื่อที่เขาสนใจกีฬาอะไรก็จะไปได้ถูก เขาสามารถเล่นได้ทุกเพศทุกวัย ก็จะพยายามสื่อสารกับประชาชนในอุดรธานี ให้เขาได้รับทราบอย่างทั่วถึงกัน ซึ่งตอนนี้มีอยู่ทั้งหมด 32 ชมรมประมาณ 20 ชนิดกีฬา ส่วนที่บางชนิดกีฬาที่เราอยากจะดึงโค้ชระดับชาติและระดับโลกมาทำการฝึกสอนให้ตั้งแต่เยาวชนนั้น เรื่องนี้ตนก็มีความคิดอยู่ แต่ก็อยากจะพูดคุยกับทางชมรมเองว่า ถ้าเอาโค้ชต่างชาติเข้ามาทางชมรมจะว่าอย่างไรไหม ซึ่งตนก็คิดอยู่เสมอว่า เด็กจะเก่งได้ก็ต้องมีครูหรือผู้ฝึกสอนที่ดี ที่ได้มาตรฐานจากการกีฬาแห่งประเทศไทย

“เราก็อยากจะเห็นอุดรเฟิร์ส อย่างเช่นอเมริกาเฟิร์ส อย่างแบดมินตันของอุดรเราก็เคยมีและปัจจุบันในเราก็เป็นระดับหนึ่งในภาคอีสาน”
ส่วนการเตรียมพร้อมในการที่เราจะเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติกับกีฬาคนพิการแห่งชาติ นั้นในขณะนี้เราก็วางแผนไว้แล้ว ตอนนี้มันมีทั้งหมด 42 ชนิดกีฬาบรรจุเข้าไปในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ซึ่งคงอาจจะเพิ่มชนิดขึ้นมาอีกก็ได้ก็ขึ้นกับทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ขณะนี้ตนก็ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อที่จะจัดกีฬาชนิดต่าง ๆ ในเมืองอุดรธานี ดูสถานที่ว่ากีฬาใดใช้สถานที่ใด มีความพร้อมไหม ส่วนที่ว่าวันเวลาที่ทำการแข่งขันนั้นจะเลื่อนหรือไม่ที่มันไปตรงงานพืชสวนโลกนั้น ขณะนี้ยังไม่มีการประกาศออกมาเป็นทางการ แต่ก็ได้ข่าวมาว่ามันเลื่อนออกไปประมาณ 3 – 4 เดือน แต่ยังไม่เป็นทางการ ส่วนในเรื่องหวังเหรียญรางวัล แล้วมีเงินอัดฉีดนั้น ตนไม่อยากให้เป็นภาระของสมาคม ก็อยากให้จังหวัดหรือประชาชนมีส่วนร่วมในตรงนี้ แล้วถามว่ามีไหมตอบได้ว่ามันมีแน่นอน มีเงินอัดฉีดให้นักกีฬาและโค้ชอย่างแน่นอน แต่ว่ามันเท่าไหร่ก็มันขึ้นกับว่าทางจังหวัดจะช่วยพวกเราหาได้เท่าไหร่ ก็ไม่อยากจะให้ตกอยู่กับใครคนใดคนหนึ่ง อยากจะดึงให้ทุกภาคส่วนได้มามีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนกีฬาใหม่ ๆ ที่พึ่งประกาศนั้น ในขณะนี้ในอุดรเรามีครบทุกชนิดกีฬาแล้ว
อย่างเช่นกีฬาโป๊กเกอร์ ตนก็ได้พูดคุยกับประธานเขาอยู่อยากให้มาจัดที่อุดร ตอนนี้กีฬานี้มีจัดได้เฉพาะในต่างประเทศ คนไทยเราไปเล่นกันเยอะมาก ถ้าจัดที่อุดรเราจะได้ดึงนักกีฬามาใช้เงินในบ้านเราให้มากขึ้น

