สกลนคร สาวถูกประกันเทเอาจริงร้อง กมธ.การคลังเอาผิดบริษัทดัง
สกลนคร สาวถูกประกันเทเอาจริงร้อง กมธ.การคลังเอาผิดบริษัทดัง

สาวสกลนคร ร่วมกับผู้ที่ถูกบริษัทประกันเทอีกหลายคน เข้าร้องเรียน กมธ.การเงินการคลังสภาผู้แทนราษฎร ถูกยกเลิกประกันสุขภาพไม่เป็นธรรมชี้เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคไม่มีจริยธรรม ธรรมาภิบาล
วันที่ 13 ตุลาคม 2568 น.ส.ณัฎฐริน สุธรรม เปิดเผยว่า ตนได้เข้ายิ่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการการเงินการคลังสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ช่วยเหลือกรณีถูกบริษัทประกันแห่งหนึ่ง บอกยกเลิกการประกันสุขภาพ โดยมีนายเอกพร รักความสุข ส.ส.สกลนคร แบบบัญชีรายชื่อเป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน ซึ่งจะนำเข้าไปหารือในคณะกรรมาธิการ ในวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ซึ่งเรื่องนี้ น.ส.น.ส.ณัฎฐริน สุธรรม
ได้เคยเปิดเผยเมื่อปี 2567 จนเป็นข่าวโด่งดังมาแล้ว ซึ่งเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับตัวเองและผู้ตกเป็นเหยื่อรายอื่นๆอีกจำนวนมาก มาจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม มีหนังสือจากนายนพพล เหลืองทองนารา ประธานคณะ กมธ.การเงิน การคลัง สภาผู้แทนราษฎร ที่ สผ.0017.05/9/950 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 ส่งผลการดำเนินงานถึงนายเอกพร รักความสุข ว่าขอส่งสำเนาหนังสือบริษัทประกันแจ้งว่ากลุ่มที่ 1 การบอกเลิกสัญญากรมธรรม์ประกันชีวิตของผู้เอาประกันกันภัย จำนวน 5 ราย
กรณีนางสาวณัฏฐริน สุธรรม กรมธรรม์เลขที่ 056-5279952 กรมธรรม์มีผลบังคับ
เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2563
ด้วยเหตุผลทางการประเมินความเสี่ยงภัยจากประวัติการเข้ารับการรักษาด้วยภาวะไรค
ที่เป็นการเจ็บปวยเล็กน้อยทั่วไป (Simple Dosse) หลายคนั้งเกินกว่ามาตรฐานของบุคคลที่มีอายุและเพศเตียวกัน ประกอบกับการพิจารณาอัตราส่วนค่าสินไหมทตแทนที่มีอัตราที่สูงเกินกว่ามาตรฐาน
ซึ่งอาจจะมีผลต่อการคิดค่าเบี้ยประกันภัยในอนาคตต่อผู้เอาประกันภัยรายอื่น และอาจไม่เป็นธรรมต่อ ผู้เอาประกันภัยรายอื่นในแบบประกันเดียวกัน ในปีกรมธรรม์ปีที่ 5 บริษัทจึงได้ใช้สิทธิไม่ต่ออายุสัญญา
กรมธรรม์กับผู้เอาประกันภัย โดยบอกกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้า เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมาตามเงื่อนไขของสัญญากรมธรรม์ที่ให้สิทธิคู่สัญญาฝ่ายใคฝ่ายหนึ่งสามารถบอกเลิกสัญญาได้
และต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2567 บริษัทได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เอาประกันภัย บริษัทจึงดำเนินการชี้แจง และไกล่เกลี่ยกับผู้เอาประกันภัยโตยตรง โดยดำเนินการผ่านสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริม
การประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) จังหวัดสกลนคร และสำนักงาน คปภ. ส่วนกลาง รวมจำนวน
5 ครั้ง ซึ่งครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยยืนยันผลการพิจารณาโดยชอบตามเงื่อนไขกรมธรรม์ดังเติม
และ บริษัทขอยืนยันการดำเนินธุรกิจบนหลักธรรมาภิบาลและตำรงไว้ซึ่งผลประโยชน์สูงสุด
ของลูกค้าเป็นสำคัญ

น.ส.ณัฎฐริน สุธรรม กล่าวว่า การถูกยกเลิกประกันสุขภาพเพราะป่วยบ่อยไม่ควรเป็นเรื่องปกติที่คนไทยต้องยอมรับถ้าปีนี้คุณแข็งแรง ประกันจะวิ่งเข้าหา แต่เมื่อใดที่คุณป่วยบ่อยๆเตรียมโดนลอยแพ ปีก่อนมีผู้ป่วยนอนติดเตียง โดนบริษัทประกันแห่งหนึ่งยกเลิกต่อสู้ ไม่ไหว ลาจากโลกนี้ไปแล้ว ไปร้องถึงสภา เข้าถึกรรมาธิการตอนแรกมีหวังว่าจะมีผู้ใหญ่ในบ้านเมืองช่วยเหลือประชาชนได้ แต่ผลสุดท้ายแม้แต่กรรมาธิการ คปภ และกระทรวงการคลัง ยังไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนที่ถูกประกันสุขภาพลอยแพได้เลย แล้วภาษีประชาชนที่รณรงค์ให้กันทำเพื่อมาลดหย่อนภาษีละรณรงค์ให้มีประกันสุขภาพเพื่อลดคนไข้จากโรงพยาบาลรัฐรณรงค์ให้วางแผนอนาคตให้มีประกันที่ดีแต่ทำไมสุดท้าย ต่อให้ประชาชนก่อนทำสุขภาพดี พอหลังทำป่วยจริง แล้วบริษัททิ้งลูกค้า ภาครัฐถึงยอมให้มีคำสั่งให้บริษัทสามารถทำได้

หลังจากที่กลุ่มประชาชนผู้ทำประกันชีวิตควบคู่กับประกันสุขภาพ ทำหนังสือเข้าร้องเรียน กรรมาธิการการเงินการคลังฯ ของ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ผลปรากฏบันทึกรายงานการประชุม และหนังสือจากประธานกรรมาธิการส่งถึง ผศ.ดร.เอกพร รักความสุข สส. ผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนกรรมาธิการ และตัวแทนกลุ่มผู้ร้องเรียน โดยมีเนื้อหาใจความโดยสรุป คือบริษัทประกันแห่งหนึ่ง ได้ยกเลิกนโยบายในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขผู้เอาประกันรายเดิม เช่นการบังคับให้จ่าย Co-payment 20% หรือปรับค่าเบี้ยเพิ่มขึ้น 2.5 ถึง3 เท่า และหาก ผู้เอาประกัน ไม่ยินยอมก็จะถูกยกเลิกการทำประกัน โดยอ้างอำนาจตามที่รับอนุมัติคำสั่งจากคปภ. เมื่อปลายเดือนธันวาคม 2567 เพื่อเห็นแก่ความเดือดร้อนของผู้ร้องเรียนตามหลักธรรมาภิบาล แต่ในรายที่มีการยกเลิกการทำประกันไม่สามารถรับเข้ามาเป็นผู้เอาประกันตามเดิมได้
เนื่องจาก บริษัทไม่สามารถรับความเสี่ยงภัยได้ โดยทางคปภ. ซึ่งเป็น หน่วยงานของรัฐและมีหน้าที่คอยช่วยเหลือประชาชน แต่กลับออกคำสั่งที่สร้างผลกระทบกับประชาชน และไม่สนใจต่อผลกระทบดังกล่าวโดยอ้างถึงความห่วงใยต่อการดำเนินการของบริษัทประกัน และ ไม่ได้รับการตรวจสอบ ความโปร่งใสในการกำกับดูแลบริษัทประกัน จากคณะกรรมาธิการฯ แต่ประการใด ผลปรากฏหลังจากที่บริษัทประกันแห่งหนึ่งได้ชี้แจงกับทางคณะกรรมาธิการ ไม่ถึงหนึ่งเดือน ได้ออกหนังสือถึงผู้ทำประกันบางรายที่ทำประกันกับทางบริษัทฯ มานานเกินกว่า 5 ปี แจ้งการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข การปรับค่าเบี้ยประกัน จากเดิมที่ต้องยึดตามตารางการจ่ายค่าเบี้ยประกัน มาเพิ่มเติมเป็นการปรับค่าเบี้ยประกัน ตามค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลที่ปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งขัดกับ กฎหมายหลายฉบับ และทางคปภ. ไม่ได้ทำการตรวจสอบการดำเนินการแต่ประการใดจึงเป็นข้อสงสัย ของประชาชน ต่อระบบการกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จะพยายามสู้ต่อไปค่ะเพื่อไม่อยากให้ใครต้องเจอแบบเราเพราะมันทรมานมาก ขอฝากท่าน รมว.คลัง และรัฐบาลชุดใหม่ดูแลสุขภาพประชาชน
ด้านนายเอกพร รักความสุข
กล่าวว่า การตรวจสอบบริษัทประกันภัย วันที่ 10 ตุลาคม 2568 ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า และถือโอกาสยื่นหนังสือถึงประธานคณะกรรมาธิการ การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน เพื่อสอบสวนการทำงานของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ.
ผู้เอาประกันภัยตกเป็นเหยื่อของธุรกิจประกันภัย ซื้อประกันสุขภาพแล้วกลับไม่ได้รับประโยชน์และบริษัทประกันภัยเอาเปรียบเพื่อไม่ดูแลผู้เอาประกันภัย ถึงเวลาแล้วในการปฏิรูประบบบริหารภาครัฐในการดูแลกิจการประกันภัย
///////////////////// วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร 0819541528