ปทุมธานี ป้าวัย51ปีหลั่งน้ำตาวอนสื่อช่วยหลังประกันเบี้ยวจ่ายเงินสามีเสียชีวิตจนเป็นหนี้คิดขายบ้านหลังสุดท้ายใช้หนี้

ปทุมธานี ป้าวัย51ปีหลั่งน้ำตาวอนสื่อช่วยหลังประกันเบี้ยวจ่ายเงินสามีเสียชีวิตจนเป็นหนี้คิดขายบ้านหลังสุดท้ายใช้หนี้
วันที่ 21 ตุลาคม 68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางบัวบงกช มาเพ้า อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/203 ม.9 ต.บึงคอไห อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ว่าได้รับความเดือดร้อนจากการทำประกันแห่งหนึ่งผิดข้อตกลงตามสัญญาจนทำให้ตนเองมีหนี้สินล้นตัวจนคิดจะขายบ้านใช้หนี้ดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบเรื่องราวดังกล่าวกับนางบัวบงกช ซึ่งมีอาชีพค้าขายไก่ย่างเสียบไม้อยุ่บริเวณริมคลองรังสิตประยูรศักดิ์ใกล้วัดสระบัว คลองสิบสอง อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

โดยนางบัวบงกชเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังด้วยน้ำตาว่าเดิมทีตนกับสามีคือนายโสภณ คำดำ มีเงินเก็บ 50,000 บาทซึ่งจะนำไปฝากธนาคารแห่งหนึ่งแต่ปรากฎว่าพนักงานธนาคารได้มีการพูดหว่านล้อมให้ป้ากับสามีทำประกันชีวิต ซึ่งป้าก็ไม่อยากจะทำแต่ลุงบอกทำไปเถิดเพราะลุงอายุมากแล้วจะได้เก็บเงินเอาไว้เผาตัวเองจึงตัดสินใจทำประกันดังกล่าวซึ่งตนได้ตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพเจอจ่ายจบ จากการเสียชีวิตทุกกรณีทำประกันสุขภาพไม่ต้องตอบคำถามเสียชีวติจ่าย200,000 ทุกกรณีคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.2567 ซึ่งพอจ่ายประกันไปแล้วปีละ 13,436 บาทปรากฏว่าผ่านไป 7 -8 เดือนสามีตรวจพบเป็นเบาหวานและได้แจ้งเข้าไปทางบริษัทประกัน พอผ่านไป 3-4 เดือนก็ตรวจพบมะเร็งอีกตนก็แจ้งทางบริษัทไปแต่ไม่ได้รับการตอบรับจากบริษัทแต่อย่างใด จนกระทั่งมาจนจะถึงปีที่ 2 ทางบริษัทก็ได้ทำการหักเงินงวดที่ 2 ไปและไม่มีการตอบมาจากบริษัทแต่อย่างใด

จนกระทั่งผ่านมาอีกไม่นานสามีเกิดเสียชีวิตและตนได้จัดงานศพจนเสร็จจึงได้แจ้งไปทางบริษัทปรากฏว่าทางบริษัทบอกว่าต้องตรวจย้อนหลัง 5 ปีป้าจึงตกใจตั้งแต่แรกทำไมไม่แจ้งป้าทั่งที่ก่อนหน้านี้คุณลุงไม่เคยป่วยเป็นอะไรมาก่อนโดยบริษัทบ่ายเบี่ยงและเลื่อนนัดกับป้ามาหลายรอบสุดท้ายผ่านมา 3 เดือนยังเงียบอยู่ป้าจึงไปแจ้งทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.)ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมายเพียงเป็นกลางในการไก่เกลี่ยเท่านั้นอีกทั้งทุกอย่างที่ทำประกันคุณลุงเสียชีวิตจากโรคมะเร็งหลังจากการทำประกันตนเองขอยืนยัน

นางบัวบงกชยังได้กล่าวต่ออีกว่าไม่นานหลังจากนั้นก็ได้มีเงินโอนเข้ามาในบัญชีของตนจำนวน 26,872 บาทซึ่งเป็นเงินทุนประกันที่ป้าส่งมา 2 ปีโดยบริษัทไม่มีการแจ้งเรื่องกับทางป้าเลย ป้าจึงขอความเป็นธรรมให้บริษัทจ่ายเงิน 200,000 บาทตามสัญญาที่ทำไว้เพราะป้าบริสุทธิใจเป็นเงินส่วนที่ป้าสมควรจะได้รับอย่าทำกับป้าแบบนี้ที่ผ่านมาบริษัทไม่เคยออกมารับผิดชอบแต่อย่างใดและไม่เคยได้รับคำปรึกษาที่ผ่านมาได้ยืมเงินจากเพื่อนบ้านหลายรายโดยเฉพาะลูกของนายก อบต. บึงคอไหที่ให้ช่วยเหลือในการรวบรวมเงินมาช่วยงานศพสามีเป็นจำนวนเงิน 130,000 บาทโดยตอยนี้ไม่มีปัญญาจะจ่ายหนี้สินแล้ว เพราะหวังว่าจะได้เงินจากประกัน 200,000 บาทไปใช้หนี้
ที่ผ่านมาหลังจากสามีเสียชีวิตป้าก็ต้องค้าขายดิ้นรนเลี้ยงตัวเองบางวันขายของได้วันละ 200 – 300 ก็ไม่พอใช่เพราะอยู่คนเดียวไม่มีลูกไม่มีญาติพี่น้องมาช่วยเหลืออีกทั้งยังมีหมาและแมวที่เลี้ยงดูอีก 20 ไปตัวจนไม่รู้จะมีเงินไปใช้หนี้เขาหรือเปล่าบางวันเครียดจนนอนไม่หลับต้องนอนกอดรูปสามีแล้วนอนร้องไห้ด้วยกันแต่ถึงที่สุดแล้วไม่มีเงินใช้หนี้จริงๆคงจะต้องตัดใจขายบ้านที่อยู่อาศัยในปัจจุบันนี้ซึ่งเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายขายเพื่อใช้หนี้ต่อไป