ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 45(ค่ายวิภาวดีรังสิต) เปิดศูนย์พร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 45(ค่ายวิภาวดีรังสิต) เปิดศูนย์พร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมแบ่งภาระหน้าที่ให้แต่ละหน่วยเข้าดูแลรับผิดชอบทั้ง 19 อำเภอ อีกทั้งตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วในการการสำรวจพื้นที่ภัยพิบัติเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบตรงเป้าหมาย

วันนี้ที่สนามฝึกกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 25 ค่ายวิภาวดีรังสิต มณฑลทหารบกที่ 45 พลตรีเฉลิมชัย สุทธินวล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 45 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 45 ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมความพร้อมการบรรเทาสาธารณภัยของทหารทั้ง 6 หน่วยในค่ายวิภาวดีรังสิต ประกอบด้วย มณฑลทหารบกที่ 45 ,กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 25 ศูนย์ฝึกนัดศึกษาวิชาทหาร, โรงพยาบาลค่ายภาวดีรังสิต, กรมทหารที่ 25 และ ศูนย์ต่อสู้ป้องกันภัยทางอากาศที่ 4 กองทัพบก ซึ่งทางศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 45 ได้เตรียมกำลังพล ยานพาหนะ ยุทโธปกรณ์ของหน่วย พร้อมทั้งติดตามประสานการปฎิบัติงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนให้อยู่ในพื้นที่ฐานของความปลอดภัย ได้แบ่งกำลังพลเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติโดยเฉพาะอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตตามอำเภอต่างๆทั้ง 19 อำเภอ พร้อมให้ตั้งชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าตืดตามสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในแต่ละพื้นที่เพื่อที่จะให้กำลังของทหารเข้าให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที่และตรงกับปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่
เนื่องจากปัจจุบันสถานการณ์ภัยพิบัติมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นอย่างบ่อยครั้งและมีโอกาสสถานการณ์จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยแต่ละครั้งได้นำมาซึ่งความสูญเสีย ต่อชีวิตและทรัพย์สินและสร้างผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของประชาชน ทั้งนี้นอกจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ประกอบกับปัจจุบันเป็นฤดูมรสุมของพื้นที่ภาคใต้ ที่ผ่านมาได้เกิดสถานการณ์ภัยพิบัติในหลายประเภท อาทิ อุทกภัย วาตภัยและอักคีภัย

ด้านพลตรีเฉลิมชัย สุทธินวล ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 45 กล่าวว่า การตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยภายในค่ายทหารเป็นนโยบายของผู้บัญชาการทหารบกและแม่ทัพภาคที่ 4 ในเรื่องของการเตรียมความพร้อม ความรู้ เครื่องมือที่จะนำไปให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยพิบัติในห่วงของการมีมรสุมในพื้นที่หรือปัญหาภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งจากการที่ได้ดูความพร้อมของแต่ละหน่วยพบว่ามีความพร้อมๆที่จะออกให้การช่วยเหลือประชาชนไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ต่างๆ ยานพาหนะ ถือว่ามีความพร้อมในระดับหนึ่ง จากนั้นจะมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 11 สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นหน่วยงานหลัก และผู้นำท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้ทราบว่าทางศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 45 มีความพร้อมในระดับนี้แล้วให้เขามั่นใจและสามารถปฎิบัติได้ตามแผนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีต่อไป












