ตราด – หนุ่มพนักงานถูกกระบะเฉี่ยวบาดเจ็บ ตำรวจปล่อยคู่กรณีลอยนวล ร้องผกก.ขอความเป็นธรรม

ตราด  หนุ่มพนักงานถูกกระบะเฉี่ยวบาดเจ็บ ตำรวจปล่อยคู่กรณีลอยนวล ร้องผกก.ขอความเป็นธรรม
วันที่ 2 สิงหาคม 2568
ข่าย บ่ายวันที่ผ่านมา นายอุปถัมภ์ แสงมณี อายุ 48 ปี พนักงานหน่วยงานแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองตราด  พร้อมญาติ เดินทางมาร้องทุกข์กบ .พ.ต.อ.เตชิต กุลกนิษฐรากร ผกก.สภ.เมืองตราดหลังเกิดอุบัติเหตุขี่รถจักรยานยนต์ถูกรถยนต์กระบะเปลี่ยนเลนและเฉี่ยวชนได้รบบาดเจ็บ แล้วรถยนต์กระบะไม่รับผิดชอบ ขณะร้อยเวรเจ้าของคดีกลับปล่อยคู่กรณีกลับบ้าน แต่ยึดรถจักรยานยนต์ของตนเองไว้ และตนเองต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลอาการบาดเจ็บหมดค่ารักษาไปเกือบแสนบาด หมดเงินต้องออกจากโรงพยาบาลทั้งๆอาการยังไม่หายดี วันนี้จึงให้ญาติช่วยมาติดตามเรื่องราวทั้งหมดกับผกก.สภ.เมืองตราด และร้องขอความเป็นธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในบันทึกเหตุการณ์ของ ร.ต.อ.สมบัติ ขอดทอง ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองตราดเจ้าของคดีนี้ ลงวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ว่าเวลา17.40 น. ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุว่า รถเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ เหตุเกิดที่หน้าโรงพยาบาลกรุงเทพตราดขาออกจากตัวเมืองตราด จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์กระบะอีซูซุ (สงวนหมายเลขทะเบียน) โดยมีชายหนุ่มอายุ 26 ปี เป็นคนขับ(สงวนชื่อ-นามสกุล)บ้านอยู่ตำบลตะกาง อำเภอเมือง จังหวัดตราด  ส่วนรถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 1 กฉ-8498 ตราด โดยมีนายอุปถัมป์ แสงมณี ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนขับขี่  ร.ต.อ.สมบัติ ขอดทอง บันทึกอุบัติเหตุเบื้องต้นไว้ ถ่ายภาพที่เกิดเหตุและจัดทำแผนที่ไว้พอสังเขป จะได้ดำเนินการสอบสวนต่อไป
   ในเรื่องดังกล่าวผกก.สภ.เมืองตราด รับเรื่องจากนายอุปถัมภ์ไว้ พร้อมทั้งตรวจสอบรายละเอียดจากหลักฐานต่างที่นายอุปถัมภ์นำมามอบให้ พร้อมกับกล่าวว่า จะเรียก ร.ต.อ.สมบัติ ขอดทอง มาสอบถามรายะเอียดถึงเรื่องราวดังกล่าว พร้อมกับให้ดำเนินการเพือ่ให้เกิดความเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้งสองต่อไป โดยรับปากว่าวันอังคารที่ 5 สิงหาคมนี้ จะแจ้งให้นายอุปถัมภ์ทราบเกี่ยวกับความคืบหน้าในคดีนี้ต่อไป พร้อมทั้งบอกว่าตอนนี้ ร.ต.อ.สมบัติ ติดราชการไปอบรมต่างจังหวัดอาจจะทำให้ไม่สามารถติดต่อได้ อย่างไรก็ตามก็จะให้ความเป็นธรรมกับนายอุปถัมภ์เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ต้องไปไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานหลักฐานต่างๆอย่างละเอียดในการติดตามคดีนี้อีกครั้ง
ในเรื่องดังกล่าวนายอุปถัมภ์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟัง พร้อมทั้งนำเอกสาร หลักฐานต่างๆ อาทิภาพบริเวณจุดเกิดเหตุ ภาพรถยนต์คู่กรณี ภาพคนขับรถยนต์คู่กรณี  ภาพการรักษาพบาบาล บิลค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น พร้อมทั้งเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองเลิกจากการทำงาน กำลังขี่รถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุมาติดไฟแดงตรงบริเวณ  แยกไฟแดงทางไปอำเภอคลองใหญ่ เมือ่ไฟเขียวมาแล้วก็ขี่รถออกจากจุดไฟแดงตามปกติและขี่เลี้ยวขวาไปตามช่องวิ่งเลียบแนวแท่งแบริเออร์  จังหวะนั้นรถยนต์กระบะคู่กรณี แล่นมาจากตัวเมืองตราดโดยใช้ช่องวิ่งตรงไปไม่ติดไฟแดงด้านในสุด แต่เมื่อพ้นแนวเขตแท่งแบริเออร์แล้ว รถยนต์กระบะไม่ขับตรงไปตามช่องวิ่งดังกล่าวแต่กลับเปลี่ยนช่องวิ่งกะทันหันเข้ามาในช่องวิ่งของตน ทำให้ตนหักหลบไม่ทัน จนเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะคันดังกล่าวเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ของตนจนล้มลงได้รับบาดเจ็บ  แต่รถยนต์กระบะไม่หยุดลงมาดูเหตุการณ์แต่ขับรถเลี้ยวเข้าไปในธนาคารกสิกรไทย และให้เด็กวัยรุ่นวิ่งมาขอโทษเท่านั้น ในช่วงนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปพูดคุยกับคนขับรถยนต์กระบะคู่กรณี แล้วก็ปล่อยรถยนต์คู่กรณ๊ไป แต่กลับนำรถจักรยานยนต์ของตนมาเก็บไว้ ส่วนคู่กรณีมาพบกับญาติของตนที่ สภเมืองตราด และรับปากจะนำประกันชั้น  ของรถยนต์กระบะมาช่วยค่ารักษา แต่ก็กลับเงียบหายไป ให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ก็ไม่ใช่ของคนขับ ติดตอ่ไปก็ไม่รับสาย หายเงียบไปเลย แต่กลับนำรถไปใช้ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรื่องดังกล่าวตนเองเดือดร้อนเพราะไม่มีเงินรักษาแล้วจนต้องขอออกจากโรงพยาบาลทั้งๆอาการบาดเจ็บยังไม่หาย ซี่โครงหัก กระดูกทิ่มปอด ยังมีเลือดไหลในปอด นายอุปถัมภ์เล่าว่าจะผิดจะถูกก็ต้องได้รับการปฎิบัติเหมือนกัน เท่าเทียมกัน และกรณีนี้ ทำไมตำรวจไม่ติดตามเรื่องราวและปฎืบัติให้เท่าเทียมกัน ตนรอมานานจนวันนี้กว่า  10 วันแล้ว ตำรวจยังไม่ได้ทำอะไรเลย คงปล่อยให้คู่กรณีนำรถไปใช้ตามปกติ เกรงจะไมได้รับความเป็นธรรม จึงต้องมาร้องทุกข์กับ ผกก.สภ.เมืองตราดดังกล่าว

ผู้สื่อข่าว พูลศักดิ์ บุญลอย 0868242989 ศิวพงศ์ บุญลอย 0988997492

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *