องค์กรรัฐจับมือองค์กรเอกชนอุดร จัดประกวดควาย “อุดรธานี วิถีคน วีถีควาย มรดกไทย มรดกโลก” ครั้งที่ 4 ประจำปี 2568 ชิงถ้วยพระราชทาน ฯ

          

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่  16 พฤศจิกายน 2568 ที่โคกหนองโกสาธารณะ หมู่ที่ 6 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี เป็นประธานเปิดงานประกวดควายสวยงามชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ประจำปี พ.ศ. 2568 (ครั้งที่ 4)  โดยมีนางนงลักษณ์ ซุ้นหั้ว นายกเหล่ากาชาดจังหวัดอุดรธานี พลตรี ประเสริฐ ข่าทิพย์พาที ผบ.มทบ.24 นายณัฐพงศ์ คำวงศ์ปิน  รอง ผวจ.อุดรธานี นายศราวุธ เพชรพนมพร นายก อบจ.อุดรธานี นายสมัคร บุญปก รองนายก อบจ.อุดรธานี หน.ส่วนราชการ ข้าราชการ ผู้บริหาร อปท. กำนัน ผญบ. ประชาชน เกษตรกร ภาคเอกชน  สื่อมวลชน และนักเรียนโรงเรียนในสังกัด อบจ.อุดรธานี ร่วมงาน

ขณะเดียวกันได้มีเกษตรกรผู้เลี้ยงควายได้นำควายสวยงามพ่อพันธุ์มาโชว์ภายในงานด้วย สำหรับวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้เพื่อกระตุ้นให้เกษตรกรและผู้ที่สนใจหันกลับมาเลี้ยงควายเพิ่มมากขึ้น และอนุรักษ์ควายไทยให้เป็นมรดกของคนไทย เป็นการสืบสาน รักษา ต่อยอดตำนานควายโบราณบ้านเชียง สืบสานตำนาน “อุดรธานี วิถีคน วิถีควาย มรดกไทย มรดกโลก” ให้อยู่คู่สังคมไทยอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับจังหวัดอุดรธานี

ก่อนเปิดงานอย่างเป็นทางการ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นำผู้ร่วมกิจกรรมยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 93 วินาที ถวายความอาลัยและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ร่วมพิธีถวายสดุดีเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี  ที่พระราชทานถ้วยรางวัลและเสด็จเป็นองค์ประธาน ประทานถ้วยรางวัลแก่เกษตรกรเจ้าของควายที่ชนะเลิศ  แก่ผู้ชนะเลิศการประกวดควายสวยงามในงาน“อุดรธานี วิถีคน วิถีควาย มรดกไทย มรดกโลก”ทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา 2568 

         นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผวจ.อุดรธานี กล่าวเปิดงานว่า จากที่ได้รับรายงานจาก นายศราวุธ เพชรพนมพร  นายก อบจ.อุดรธานี ทำให้ทราบว่า จังหวัดอุดรธานี ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ปศุสัตว์จังหวัดอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี  กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงควายในจังหวัดอุดรธานี สมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทยจังหวัดอุดรธานีในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี  ศูนย์อนุรักษ์และพัฒนาควายในจังหวัดอุดรธานี ได้กำหนดจัดการประกวดควายสวยงาม “อุดรธานี วิถีคน วิถีควาย มรดกไทย มรดกโลก” มาต่อเนื่องโดยได้รับพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ จากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในการเสด็จเป็นองค์ประธาน ประทานถ้วยรางวัลแก่เกษตรกรเจ้าของควายที่ชนะเลิศเป็นประจำทุกปี

“สำหรับการประกวดปี 2568 นี้ก็ขอชื่นชมและยินดีกับพี่น้องชาวอุดรธานีที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ จากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้นายสุรพิทย์ กีรติบุตร รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีมอบถ้วยรางวัลชนะเลิศ ผู้ชนะการประกวดควายสวยงามในครั้งนี้ จำนวน 4 รางวัล คือรุ่นควายยอดเยี่ยม (Grand Champion) เพศผู้ ประเภทควายรวมสี,รุ่นควายยอดเยี่ยม (Grand Champion) เพศเมีย ประเภทควายรวมสี, รุ่นรองควายยอดเยี่ยม (Reserve Grand Champion) เพศผู้ ประเภทควายรวมสี, และรุ่นรองควายยอดเยี่ยม (Reserve Grand Champion) เพศเมีย ประเภทควายรวมสี ซึ่งสร้างความปลาบปลื้มเป็นล้นพ้นแก่เกษตรกรผู้เลี้ยงควายที่เดินทางมาจากทั่วประเทศในการเข้านำควายเข้าร่วมประกวดในครั้งนี้รวมทั้งเกษตรผู้เลี้ยงควายในอุดรธานีด้วย สำหรับในการจัดประกวดในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ – เอกชน – อปท.ท้องถิ่น – กำนัน – ผญบ.และประชาชนชาวอำเภอทุ่งฝน เป็นอย่างดี”

           จังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม ที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิถีชีวิตและอัตลักษณ์พื้นถิ่นอีสาน ที่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านกสิกรรม ที่อาศัยวิถีธรรมชาติมาอย่างยาวนาน เช่น การปลูกข้าว โดยใช้แรงงานจากควายไทย มีการส่งเสริมการเลี้ยงควาย ทั้งโครงการจากรัฐ รวมถึงท้องถิ่น จากข้อมูลปี 2568  จังหวัดอุดรธานีมีเกษตรกรผู้เลี้ยงควายสวยงามเป็นอันดับที่ 9 ของประเทศมีเกษตรกรผู้เลี้ยงความทั้งจังหวัดรวม 13,686 ราย จำนวนควาย 72,695 ตัว จังหวัดอุดรธานี มีการส่งเสริมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย สืบสานวัฒนธรรมวิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์ของพื้นถิ่นอีสาน การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการท่องเที่ยวที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้ง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนด้านการท่องเที่ยวที่เป็นกลไกการขับเคลื่อนของจังหวัดในทุกมิติ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเป็นการเสริมสร้างจุดแข็งของการท่องเที่ยวในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

          จังหวัดอุดรธานีได้รับการยอมรับว่าสามารถรองรับการท่องเที่ยวเมืองรองให้เป็นฐานด้านวัฒนธรรม นวัตวิถี กระตุ้นให้เกษตรกรและผู้สนใจหันกลับมาเลี้ยงควายเพิ่มมากขึ้น เป็นการสืบสาน รักษา ต่อยอดตำนานควายโบราณบ้านเชียง สืบสานตำนานวิถีคนวิถีควาย ส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีไทย เชื่อมโยงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญา วิถีชีวิตที่เป็นอัตลักษณ์พื้นถิ่นอีสานและเพื่ออนุรักษ์ควายไทยให้เป็นมรดกของคนไทย และอยู่คู่วิถีสังคมไทยอย่างยั่งยืน จากการขุดค้นทางโบราณคดีที่วัดโพธิ์ศรีใน ระหว่าง พ.ศ. 2546-2547 ได้พบโครงกระดูกที่มีความสมบูรณ์ เช่น กระดูกควาย กระดูกปลาและกระดูกสุนัข ส่วนของโครงกระดูกควายนั้นไม่พบส่วนหัว โดยสมาคมอนุรักษ์และพัฒนาควายไทย และ ศาสตราจารย์ ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา คณะเกษตรศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้นำโครงกระดูกควายจากแหล่งโบราณคดีจากบ้านเชียงไปตรวจ ผลตรวจดีเอ็นเอ บ่งชี้ว่าเป็นโครงกระดูกควายจริง อายุกว่า 3,000 ปี จึงเป็นอีกแรงในการผลักดันให้จังหวัดอุดรธานี จะต้องสืบสาน รักษา และต่อยอด ตำนานวิถีคนวิถีควาย  ส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีไทยให้คงอยู่คู่สังคมไทย

          การจัดงานครั้งนี้ ตั้งเป้ากระตุ้นเศรษฐกิจทั้งธุรกิจโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร สินค้าการเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค สอดคล้องนโยบายของรัฐบาล 5F Soft power ปลูกต้นกล้าสร้างรายได้ กระตุ้นการท่องเที่ยวมูลค่ากว่า 100 ล้านบาทและมีควายที่เข้ามาร่วมงานในครั้งนี้มีมูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้กับจังหวัดอุดรธานีอย่างยั่งยืน

 จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวอุดรธานี ร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยว และเกษตรกรที่จะมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมเชิญชวนประชาชนและนักท่องเที่ยวร่วมงาน “อุดรธานี วิถีคน วิถีควาย มรดกไทย มรดกโลก” วันที่ 16-19 พฤศจิกายน 2568 ณ พื้นที่ โคกหนองโกสาธารณะ ตำบลทุ่งใหญ่ อำเภอทุ่งฝน จังหวัดอุดรธานี ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น.เข้าชมฟรี พร้อมเชิญชวนเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอใกล้เคียง อาทิ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง  อำเภอหนองหาน , กราบหลวงพ่อทองคำ อำเภอทุ่งฝน ,วังนาคินทร์คำชะโนด วัดป่าคำเจริญ วังนาคีวัดศรีดาราม อำเภอบ้านดุง เป็นต้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *