พิษณุโลก ผู้ใหญ่บ้านแจงแล้วเหตุออกใบรับรองการตายให้คุณยายตายแล้วฟื้น ไม่ได้ดูศพด้วยตนเอง พร้อมขอโทษโรงพยาบาลพุทธฯ

ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 บ้านน้ำทองน้อย ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก เปิดใจแจงเหตุออกใบรับรองการตายของคุณยายวัย 65 ปี ญาติมาแจ้งว่าเสียชีวิตที่บ้าน จะรีบนำศพไปบริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ที่โรงพยาบาลจุฬาฯ แต่สุดท้ายโรงพยาบาลไม่รับร่างเพราะไม่มีเอกสารจากนิติเวชและตำรวจพื้นที่ ด้านกู้ภัยยัง งง ก่อนหน้านี้ญาติมาขอรับโลงฟรีทั้งๆ ที่คุณยายยังไม่ตายจริง

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 จากกรณีที่ ทางเพจวัดราษฎร์ประคองธรรม จ.นนทบุรี ได้โพสต์คลิปวิดีโอคุณยายชลธิรศน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ชาวบ้าน หมู่ 9 บ้านน้ำทองน้อย ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ที่นอนอยู่ในโลงศพลักษณะอ่อนเพลียและอ่อนแรง ตามที่มีการนำเสนอข่าว ว่าคุณนายตายแล้วฟื้นขณะญาติพามาขอทำการฌาปนกิจศพ โดยญาตินำศพยายจากพิษณุโลกเดินทางมาวัดราษฎร์ประคองธรรม จ.นนทบุรี เพื่อประกอบพิธีฌาปนกิจ แต่พอเปิดโลงกลับพบว่ายายยังมีชีวิตอยู่ยังไม่ตายแต่อย่างใด สามารถยกแขนขาได้ตามปกติ ตามที่นำเสนอข่าวไปเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ที่ผ่านมานั้น โดยเมื่อเวลา 21.00 น. (23 พ.ย. 68) แพทย์โรงพยาบาลบางใหญ่ จ.นนทบุรี ได้ยืนยันอาการของคุณยายปลอดภัยดี ไม่พบภาวะหยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้นมาก่อน การตรวจร่างกายระบุว่าเกิดจาก ภาวะน้ำตาลตก เท่านั้น เบื้องต้นให้น้ำเกลือและเฝ้าดูอาการใกล้ชิดโดยพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
ซึ่งจากกระแสข่าวดังกล่าวนั้น มีประชาชนสงสัยเกี่ยวกับเรื่องการดำเนินการแจ้งตาย ว่าเหตุใดถึงมีความหละหลวม จึงเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างเกี่ยวกับเรื่องการแจ้งตายของคุณยาย ในพื้นที่ หมู่ 9 บ้านน้ำทองน้อย ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก
ต่อมา ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบกับ นายวุฒิณรงค์ จันทราช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านน้ำทองน้อย ต.บ้านดง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ซึ่งได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 22 พ.ย. 2568 ที่ผ่านมา มีลูกบ้าน คือ นายมงคลฯ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นน้องชายของยายชลธิรศน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี เดินทางมาแจ้งว่ายายชลธิรศน์ได้เสียชีวิตลงที่บ้านพัก โดยได้นำหลักฐานการบริจาคร่างกายให้กับโรงพยาบาลจุฬาฯ ไว้ และได้ทำการบรรจุโลงศพเรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะรีบนำร่างคุณยายออกเดินทางไปมอบให้กับโรงพยาบาลจุฬาฯ ตามความประสงค์ของคุณยาย จึงขอให้ตนออกใบ ทร.4 ซึ่งด้วยความเชื่อใจกันในหมู่บ้าน ประกอบกับทราบว่าคุณยายป่วยได้นอนติดเตียงอยู่ที่บ้านพักในหมู่บ้านมาประมาณ 2 ปีแล้ว โดยมีน้องชายเป็นคนดูแล จึงไม่ได้เดินทางไปตรวจสอบอย่างละเอียด เพราะเขาได้บรรจุร่างคุณยายไปแล้ว จึงออกใบ ทร.4 ให้ไป เพราเกรงว่าระหว่างทางจะเกิดปัญหา โดยเน้นย้ำว่าเดินทางถึงโรงพยาบาลแล้ว ซึ่งเป็นวันเสาร์ อาทิตย์ ถ้าได้ใบหรือเอกสารจากโรงพยาบาลมาถึงจะมาแจ้งต่อทางอำเภอได้ เลยแจ้งไปแบบนั้น แต่ลักษณะศพนั้นถ้ามาแจ้งกรณีนี้เราก็จะให้ไป ตามประเพณีของหมู่บ้านของเรา ก็จะแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านไปช่วยงาน ถ้ามีคนตายในหมู่บ้าน แต่นี่เขามาแจ้งว่าเร่งรีบเพราะบริจาคร่างไว้เป็นอาจารย์ใหญ่ ตนเลยออกไปให้ไปโดยไม่ได้ไปดูศพ เพราะญาติแจ้งว่าบรรจุเรียบร้อยแล้ว จะรีบนำร่างไป รพ.จุฬาฯ ซึ่งญาติไม่ได้แจ้งตำรวจหรือประสานกับแพทย์เวรเข้ามาชันสูตรพลิกศพที่เกิดเหตุ
หลังจากทราบข่าวว่าคุณยายฟื้นแล้ว คิดว่าเราก็สันนิษฐานไม่ได้ว่าเขาเสียชีวิตจริง หรือว่าการที่เอาไปแบบนั้น เราไม่ทราบ บางคนเราก็ไม่ทันพิสูจน์และต้องขออภัยกับทางโรงพยาบาลพุทธชินราช ที่กรอกข้อมูลไปแบบนั้น เพราะญาติแจ้งว่ารักษาครั้งสุดท้ายที่โรงพยาบาลพุทธชินราช ก็เลยกรอกให้ไป เพราะปกติโรงพยาบาลได้มาดูแลที่บ้านคุณยายช่วงประมาณ 2 เดือน ก่อนหน้านี้
ส่วนข้อมูลครอบครัวนี้เป็นครอบครัวปิด ไม่ค่อยได้ออกมาใกล้ชิดอะไรกับเพื่อนบ้านเท่าไหร่ครอบครัวนี้ประกอบอาชีพทำสวนเป็นหลัก มีบ้าน 2 หลัง คุณยายย้ายมาจากที่อื่น จ.อุดรธานี คนแจ้งเป็นเขยของบ้านนี้ กระทั่งเหตุการณ์บานปลายจนกลายเป็นกระแสดังอยู่ในโซเชียลว่าเกิดปาฏิหาริย์คุณยายตายแล้วฟื้นดังกล่าว
ด้านนางดอกไม้ ชื่นอารมณ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิประสาทบุญสถาน จุดชาติตระการ ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย.68 ช่วงเวลาประมาณ 10 โมงเช้า นายมงคลฯ ได้มาติดต่อขอโลงศพฟรี พร้อมกับสอบถามว่า ขั้นตอนการดำเนินการหลังพี่สาวเสียชีวิตต้องทำอย่างไรบ้าง ตนก็อธิบายขั้นตอนให้ฟัง โดยยืนยันว่า หากยังไม่เสียชีวิตไม่สามารถให้โลงได้ โดยช่วงเวลานั้นนายมงคลฯ ได้นำเอกสารเป็นบัตรบริจาคร่างกายให้ตนดู ตนจึงแนะนำว่า ต้องประสานกับทางโรงพยาบาลหากผู้บริจาคเสียชีวิต และต้องแจ้งผู้ใหญ่บ้านเพื่อขอหลักฐานการเสียชีวิต จากนั้นนายมงคลฯ ก็กลับไป ต่อในในช่วงเวลาประมาณ 4 โมงเย็น นายมงคลฯ ได้กลับมาอีกครั้งและแจ้งว่าพี่สาวได้เสียชีวิตแล้ว ตนจึงมอบโลงศพให้ เพราะทราบว่าเขาต้องรีบนำร่างผู้เสียชีวิตส่งให้กับทางโรงพยาบาลที่บริจาคร่างกายไว้
ส่วนประเด็นที่ตายแล้วฟื้นนั้น ตนมองว่ารู้สึกแปลกๆ ปกติคนมาติดต่อขอโลงคือต้องเสียชีวิตก่อน แต่นี่มาติดต่อขอโลงก่อนก็เลยรู้สึกแปลกๆ ส่วนตัวไม่เคยเจอเคสตายแล้วฟื้นแบบนี้
///////////////











