เวทีประชาคม “เทศบาลตำบล” คัดกรองบ้านน้ำท่วม ด้าน “นายกเล็กกะลุวอเหนือ” เคารพเสียงชาวบ้าน ย้ำ! “ท่วมหรือไม่..เจ้าตัวรู้ดี” – ลงตรวจเข้มเทียบตัวเลขครัวเรือน – ลงทะเบียน


อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ได้คลี่คลายลง ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย สรุปสถานการณ์น้ำท่วม 9 จังหวัด เสียชีวิต 25 ราย, ประชาชนได้รับผลกระทบ 2,953,206 คน 1,078,617 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน
'รัฐบาลอนุทิน' มีมติคณะรัฐมนตรี 25 พ.ย.68 ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2568 ครัวเรือนละ 9,000 บาท ใน 4 กรณีคือ 1.ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง ไม่เกิน 7 วันและทรัพย์สินเสียหาย 2.ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำท่วมขัง เกินกว่า 7 วันขึ้นไป 3.ที่อยู่อาศัยประจำถูกน้ำล้อมรอบ ทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ ติดต่อกันเกินกว่า 7 วันขึ้นไป และ 4.ที่อยู่อาศัยประจำในอาคารสูงที่น้ำท่วมไม่ถึงชั้นที่ผู้ประสบภัยพักอาศัย ทำให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ตามปกติ ติดต่อกันเกินกว่า 7 วันขึ้นไป
สำหรับ จ.นราธิวาส 13 อำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (เทศบาล, อบต.) ได้เปิดลงทะเบียนรับเงินเยียวยา ซึ่งผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน สามารถไปยื่นเอกสาร ณ อำเภอ เทศบาลหรือ อบต.ที่มีรายชื่อในทะเบียนบ้าน หรือผ่านเว็บไซต์ flood68.disaster.go.th ภายในสิ้นเดือน ธ.ค.68 และให้จัดทำประชาคมในทุกหมู่บ้านเพื่อรับรองข้อมูลหลังการลงทะเบียนเสร็จสิ้น
ที่วัดพิกุลทอง ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส ได้จัดทำประชาคมของ 2 หมู่บ้านคือ บ้านจะแลเกาะ และบ้านพิกุลทอง เพื่อระดมความคิดเห็นกรณีความเดือดร้อนจากอุทกภัย โดย นายการุณ ไทยสนิท นายกเทศมนตรี ต.กะลุวอเหนือ ได้รับฟังปัญหาและความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน ย้ำ "ผมเคารพการตัดสินใจของทุกครัวเรือน" ..ท่วมหรือไม่ท่วม.เจ้าตัวรู้ดี มันอยู่ที่จิตสำนึก 1 บ้าน 1 คน 1 สิทธิ์ โดยเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจจากข้อมูลการลงทะเบียนรับเงินเยียวยา ว่ามีผู้แอบอ้างบ้านไม่มีเลขที่เพื่อรับเงินอีกยอดหรือไม่ เปรียบเทียบกับจำนวนครัวเรือนจริงใน 13 หมู่บ้านของ ต.กะลุวอเหนือ รวมทั้งครัวเรือนสำรวจได้รับผลกระทบ
หลังทำประชาคมเสร็จ ได้มอบถุงยังชีพเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของทุกครัวเรือน ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัย ต.กะลุวอเหนือ มีผู้เสียชีวิต 1 รายคือ น.ส.จุฑาทิพ วัธนพร อายุ 50 ปี ราษฎรหมู่บ้านพิกุลทอง ซึ่ง ครม.มีมติล่าสุด (4 ธ.ค.68) เยียวยาเท่าเทียมกันทั้ง 9 จังหวัด รายละ 2 ล้านบาท










