เอาฮาวาสวัดห้วยพระชี้แจงประเด็นการรื้อศาลาหลังเก่า

เอาฮาวาสวัดห้วยพระชี้แจงประเด็นการรื้อศาลาหลังเก่า
จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนว่า ที่วัดห้วยพระ ต.ห้วยพระ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ทางเจ้าอาวาสมีมติในการที่จะรื้อศาลาเอนกประสงค์ ที่ยังคงมีความสวยงามและยังสามารถใช้การได้อยู่ โดยที่ไม่ฟังแม้จะมีผู้คัดค้านใด ๆ ดังนั้นผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่เพื่อให้เกิดความชัดเจน ก็ได้คำชี้แจงจาก จอว. ไวยาวัจกร ผญ.บ.และ คณะกรรมการแล้ว ต่างเห็นด้วยกับโครงการสร้างศาลาเอนกประสงค์หลังใหม่ ในงบประมาณกว่า 20 ล้านบาท
ซึ่งจากการสอบถาม พระครูพิทักษ์ธรรมกิตติ์ เจ้าคณะตำบลห้วยด้วย เจ้าอาวาสวัดห้วยพระ ต.ห้วยพระ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ก็ได้คำชี้แจงว่าวัดแห่งนี้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมของ จ.นครปฐม ในแต่ละปีจะมีญาติโยมมาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ กันจำนวนมาก และได้ใช้ศาลาเอนกประสงค์หลังนี้มานานแล้ว ปัจจุบันนี้ถ้าดูในสายตาภาพรวมแล้ว ก็จะเห็นว่าสวยงามอยู่ แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีปัญหาในหลาย ๆ ด้าน ทั้งการชำรุดทรุดโทรม โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนก็จะมีปัญหา จากรางรองรับน้ำฝนที่ชำรุด มีการรั่วไหลของน้ำจำนวนมาก เป็นอุปสรรคในการประกอบกิจทางศาสนา อีกทั้งพื้นที่ก็แคบไม่เพียงพอรองรับญาติโยม ที่มาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การปฏิบัติธรรมก็ใช้พื้นที่แห่งนี้ สถานที่นอนก็ใช้แห่งนี้ ทำให้ภาพลักษณ์ไม่สวยงาม สำหรับผู้มาพบเห็น และไม่เป็นสัดส่วน ดังนั้นอาตมาและคณะกรรมการวัด จึงได้มีการประชุมหารือ เพื่อจะรื้อศาลาหลังนี้และจะทำการก่อสร้างขึ้นมาใหม่ ให้มีความกว้างและยาวกว่าเดิม เพื่อสะดวกแก่ญาติโยมและผู้ปฏิบัติธรรม ได้ใช้อย่างสะดวกสบาย และไม่แออัดอย่างเช่นทุกวันนี้ โดยคิดว่าจะสร้างแบบสองชั้น คือ ชั้นล่างใช้เป็นที่ปฏิบัติธรรม ส่วนด้านบนใช้สำหรับนอน และวางสัมภาระต่าง ๆ เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นสัดส่วน ซึ่งโครงการนี้ได้มีแนวคิดกันมา 2-3 ปีแล้ว และมีการบอกบุญในงานกฐินให้ญาติโยมได้รับรู้กันแล้ว ว่าอาตมาและคณะกรรมการ จะทำการก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์หลังใหม่แทนหลังเก่า เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับญาติโยม และเป็นสัดส่วนที่ดีขึ้น ขนาดความกว้าง 40X60 เมตร งบประมาณการก่อสร้างประมาณ 20 กว่าล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีงบอยู่แล้วกว่า 9 ล้านบาท ซึ่งทางญาติโยมหลาย ๆ ฝ่าย ก็ไม่มีใครขัดแย้งอะไร ถ้ามีใครขัดแย้งอาตมาก็คงไม่สามารถบอกบุญในงานกฐินอย่างต่อเนื่องได้ และที่ผ่านมารายได้จากกฐินก็ได้ปีละกว่า 2,000,000 บาท เพื่อจะรวบรวมเป็นค่าก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์หลังใหม่ ให้เป็นศาลาที่ถาวรสำหรับญาติโยมรุ่นต่อ ๆ ไป อย่างไรก็ตามเบื้องต้นได้มีการเขียนแบบแปลนไว้ คือ สองชั้น แต่คงต้องมีการพิจจารณากันใหม่ว่าจะเอาแบบสองชั้นหรือชันเดียว เนื่องจากช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ก็คงจะต้องมีการประชุมหารือกันอีกครั้ง

ด้านผู้ใหญ่ สุรินทร์ บริรักษ์ ไวยาวัจกร รวมทั้งแม่ชี และคณะกรรมการ ต่างก็เห็นด้วยกับเจ้าอาวาส ที่จะดำเนินโครงการก่อสร้างศาลาเอนกประสงค์หลังใหม่ เพื่อให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และเพื่อให้เป็นอาคารที่ถาวรมั่นคง และได้ใช้สำหรับกิจกรรมในพุทธศาสนาจนชั่วลูกชั่วหลานกันต่อไป
ผู้สื่อข่าว นายพิสิษฐ์ ปานวณิชยกิจ (5 ส.ค.68)
ภาพ น.ส.ศิวาพร ศรีศิวานุวัฒน์ (จ.นครปฐม)