สุราษฎร์ธานี – ผู้ประกอบการภาคเอกชนได้จัดกิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล

สุราษฎร์ธานี – ผู้ประกอบการภาคเอกชนได้จัดกิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มของไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล สร้างความเชื่อมั่นในตลาดโลก พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ที่ผ่านมาการส่งออกน้ำมันปาล์มไปต่างประเทสอนาคตยังสดใส


วันนี้ ที่บริษัท นิว ไบโอดีเซล จำกัด ตำบลเสวียด อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “โครงการสมาชิกสัมพันธ์” ซึ่งจัดโดย บริษัท เพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) (PCE) โดยมีนายประกิต ประสิทธิ์ศุภผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
สำหรับกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อขอบคุณเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มซึ่งเป็นกำลังสำคัญของอุตสาหกรรม และเป็นเวทีสื่อสารทิศทางใหม่ที่มุ่งเน้นการผลิตที่ยั่งยืนตามหลักการ อีเอสจี (ESG: Environmental, Social, and Governance) และมาตรฐาน อาร์เอสพีโอ (RSPO: Roundtable on Sustainable Palm Oil) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลผลิตและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ซื้อในระดับนานาชาติ
นายธีรุตม์ ศุภวิบัลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจยุทธศาสตร์ที่จะช่วยยกระดับสินค้าเกษตรไทย โครงการนี้จึงเป็นเวทีสำคัญที่ทำให้บริษัทและเกษตรกรได้ร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพผลผลิต เพื่อให้ปาล์มน้ำมันของไทยมีความเข้มแข็งและสามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน ภายในงานยังมีการบรรยายพิเศษในหัวข้อ “การตัดปาล์มที่มีคุณภาพ” โดยนักวิชาการจากกรมส่งเสริมการเกษตร และ “มาตรฐาน RSPO” จากผู้แทน อาร์เอสพีโอ ประเทศไทย เพื่อผลักดันให้เกษตรกรไทยเข้าสู่ระบบการผลิตที่โปร่งใส รับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างความมั่นคงด้านรายได้ในระยะยาว
ด้านนางสาวกัญกร ประสิทธิ์ศุภผล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเพชรศรีวิชัย เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PEC กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ อันดับ 3 ของโลกรองจากอินโดนีเซียและมาเลเซีย มีผลผลิตปาล์มสดไม่ต่ำกว่า 18.5-19.00 ล้านต้นต่อปี และสามารถผลิตน้ำมันปาล์มดิบได้มากกว่า 3-3.5 ล้านตันต่อปี ครอบคลุมเกษตรกรกว่า 4 แสนครัวเรือทั่วประเทศ แม่สัดส่วนของไทยในตลาดโลกยังมีเพียง 3-4 เปอร์เซ็นต์แต่ถือว่ามีศักยภาพการเติบโตสูง เนื่องจากพื้นที่เพาะปลูกของไทยยังอยู่ในระยะขยายตัวและสามารถเพิ่มผลผลิตต่อไรได้อย่างต่อเนื่อง การสร้างมูลค่าและการพัฒนามาตรฐานการผลิตจึงเป็นกุลแจสำคัญที่จะทำให้เกษตรกรไทยก้าวสู่ความมั่นคงในระยะยาวและมีส่วนแบ่งการตลาดที่มาดขึ้นในเวทีโลก
ที่ผ่านประเทศอินเดียมีการนำเข้าน้ำมันปาล์มจากเราเกือบ 1 ล้านตัน ฉะนั้นจึงทำให้การส่งออกจึงไม่มีปัญหาและอนาคตอาจจะส่งออกมากว่าปัจจุบัน เนื่องจากความต้องการยังมีสูง ส่วนราคาผลผลิตปาล์มภายในประเทศในขณะนี้เกษตรกรก็มีความพึงพอใจเป็นอย่างมากเนื่องจากราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 7 .20 บาทซึ่งดีกว่าเมื่อต้นปีที่ราคาตกต่ำ และการติดคิวคิดว่าในอนาคตก็จะไม่มีปัญหาเช่นเดียวกัน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *