สาวทาสยาเพี้ยนถือมีดอีโต้ขู่ฆ่าแม่ไม่พอใจห้ามเอากิ่งไม้เข้าบ้าน ก่อนโดนตำรวจนำส่งรพ.บำบัด

สาวทาสยาเพี้ยนถือมีดอีโต้ขู่ฆ่าแม่ไม่พอใจห้ามเอากิ่งไม้เข้าบ้าน ก่อนโดนตำรวจนำส่งรพ.บำบัด
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 16 ตุลาคม ขณะที่ ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งเหตุ มีหญิงคลุ้มคลั่งอาละวาด จะใช้มีดอีโต้ทำร้ายบุพการี ที่บ้านเลขที่ 23/1 บ้านพรสวรรค์ หมู่ 14 ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรฯ หลังจากได้รับแจ้ง จึงนำกำลังสาย191 และสายตรวจตำรวจชุมชนตำบลหนองนาคำ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวเปิดเป็นร้านขายของชำ พบนางบัวลา เรืองเดช อายุ 76 ปี และแม่ ชี้ให้ตำรวจไปจับลูกสาว ซึ่งนั่งอยู่ ด้านหลังบ้านซึ่งเป็นบ้านสองชั้นรึ่งไม้ครึ่งปูน พบผู้ก่อเหตุคือ น.ส. มลนิภาพร เรืองเดช หรือมล อายุ 41 ปี นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างบ้าน พบมีดอีโต้วางอยู่ที่พื้น ตำรวจจึงยึดมีดไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวน น.ส.มล พูดจากวกไปวนมาไม่รู้เรื่อง จับใจความได้ว่า จะไปโรงพยาบาลบ้าและวัด เพราะว่า มีคนทะเลาะทำร้ายกันทุกวันประมาณ 30-40 คน จะกระโดดขึ้นหลังคาบ้านไปมา ตนเดินตามทุกวัน แต่ไม่เห็นตัว
นางบัวลา ขอให้ตำรวจนำ น.ส.มล ไปบำบัดรักษา เพราะว่าตั้งแต่เพี้ยนมามีแต่พูดคนเดียวทั้งวัน แต่มาวันนี้ได้ถือกิ่งไม้เข้ามาในบ้าน แม่จึงได้ห้ามไว้ ทำให้นางไม่พอใจอาละวาดขู่จะทำร้ายแม่ ทำร้ายหลาน ซึ่งที่บ้านมีเด็กเล็ก 3 คน และแม่ที่แก่ชรา เกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงขอให้ตำรวจนำส่ง โรงพยาบาลเพื่อบำบัดรักษา
ขณะที่กำลังรอรถของตำรวจอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำ น.ส.มล ไปกราบขอขมาแม่และน.ส.ยุวภา เรืองเดช อายุ 55 ปี พี่สาว ซึ่งทั้งสองคนเป็นผู้ดูแล น.ส.มล ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยทำร้ายแม่และพี่สาวเลย แต่มาคราวนี้กล้าที่จะเอาไม้และมีดมาขู่จะทำร้ายแม่ ซึ่งทั้งสองก็ให้การอภัย แต่ครั้งต่อไปจะแจ้งความดำเนินคดี ซึ่ง น.ส.มล ก็ได้กราบขอขมาทั้งสอง ก่อนนำขึ้นรถตราโล่ โดยมีพี่สาวเดินทางไปด้วย น.ส.มล ได้ยกมือบ๊ายบายแม่ ท่ามกลางความโล่งใจของนางบัวลา
น.ส.ยุวภา ฯ กล่าวว่า แม่มีลูกทั้งหมด 8 คน ตนเป็นลูกคนโต ส่วน น.ส.มล เป็นคนสุดท้อง เมื่อ น.ส.มล เรียนจบชั้น ปวช. ก็เริ่มเกเรคบเพื่อนไม่ดี ไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนอาการหลอน และเพี้ยนตั้งแต่อายุ 21 ปี เคยเดินทางไปทำงานโรงงานที่กรุงเทพฯ แต่ทำได้ที่ละ 2-3 วันก็โดนให้ออกและย้ายไปหลายที่เพราะมีอาการเพี้ยน กระทั่งไปก่อเหตุปีนกำแพงทำเนียบรัฐบาล จึงได้นำไปบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ หลังจากรักษาหายก็นำกลับมาบ้าน แต่ น.ส.มล ก็หวนกลับไปเสพยาอีก และกลับมามีอาการเพี้ยนอีก
น.ส.ยุวภา กล่าวต่อไปอีกว่า วันนี้น้องได้อาละวาดตั้งแต่เช้า เพราะถือกิ่งไม้เข้าไปในบ้าน แม่จึงห้ามไม่ให้เอาเข้ามา น้องก็อาละวาด ถือมีดอีโต้จะมาฆ่าแม่ ตนก็เลยวิ่งมานั่งบังแม่ไว้ แต่น้องก็ไปจับเอาจอบวิ่งไล่หลาน ตนก็วิ่งไปเอาเสียมไปกันหลานเอาไว้ จากนั้นน้องก็ชี้หน้าด่าแม่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย สาเหตุเพราะเป็นจิตเวช เนื่องจากเสพยามาหลายปีแล้ว เอาไปรักษาหายแล้วก็กลับไปเสพอีก ก็กลับมาเป็นอีก เอายามาไว้ให้กินก็ไม่ยอมกินยา
“เมื่อ 20 ปี ที่ผ่านมาก็เคยไปก่อเหตุปีนกำแพงทำเนียบรัฐบาล นำไปรักษาหายเจ้าหน้าที่ก็ให้ไปรับกลับบ้าน กลับมาก็เป็นเหมือนเดิม ตอนเพี้ยนใหม่ๆ ก็จะทำร้ายลูกหลานที่เป็นวัยรุ่น แม้แต่ลูกสาวตัวเองก็ทำร้าย ซึ่งน้องไปมีลูกตอนไปทำงานที่กรุงเทพฯ แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ พอคลอดออกมาก็ยกให้พี่สาวเป็นแม่ เพราะจะทำร้ายลูกตั้งแต่แบเบาะ แม่ทุกข์ใจมากจนป่วย ที่เห็นลูกสาวเป็นแบบนี้”
//////////////////////////////////รัฐธนินท์อุดร











